ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย แม้ว่าอัตราว่างงานเริ่มปรับตัวลงแล้วก็ตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 61.15 จุด หรือ 0.47% แตะที่ 13,141.88 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 6.55 จุด หรือ 0.47% แตะที่ 1,403.66 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 22.48 จุด หรือ 0.73% แตะที่ 3,090.40 จุด
เบอร์นันเก้กล่าวสุนทรพจน์ต่อสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติ ที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ในวันนี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังอ่อนแอ แม้ตัวเลขจ้างงานได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 3 เดือนติดต่อกัน และอัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีก็ตาม ซึ่งหมายความว่า เฟดยังจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีก เพื่อให้การฟื้นตัวของตลาดแรงงานเดินหน้าต่อและกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ประธานเฟดยังระบุว่า การผลิตจะต้องขยายตัวเร็วกว่านี้ และอุปสงค์จากผู้บริโภคและภาคธุรกิจจะต้องเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งกว่านี้ เพื่อผลักดันให้ตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานปรับตัวดียิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะต้องได้รับการสนับสนุนจากการใช้นโยบายที่ผ่อนคลายและต่อเนื่อง
ถ้อยแถลงดังกล่าวของเบอร์นันเก้ถูกมองเป็นสัญญาณบวกว่า เฟดเตรียมที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกสักระยะ ถึงแม้ว่าในช่วงหลังมานี้ เศรษฐกิจสหรัฐได้ส่งสัญญาณขยายตัวขึ้นแล้วก็ตาม
หุ้นทั้ง 10 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P 500 เปิดตลาดปรับตัวขึ้น โดยหุ้นกลุ่มผู้ให้บริการด้านสุขภาพ กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มวัสดุ พุ่งขึ้นแข็งแกร่งกว่า 1%
หุ้นไลออนส์ เกท เอนเตอร์เทนเมนท์ พุ่งขึ้นกว่า 5% หลังจากที่มีรายงานว่า บริษัทสามารถทำได้รายจากการฉายภาพยนตร์เรื่อง “The Hunger Games" สูงถึง 155 ล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นักลงทุนจับตาดูดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของสหรัฐ ซึ่งคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจะอยู่ที่ 70.0 จุดในเดือนมี.ค. ลดลงจากระดับ 70.8 จุดในเดือนก.พ.
นอกจากนี้ รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงปลายเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้เวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 74.6 ในช่วงปลายเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 74.3 ในช่วงต้น เดือนมี.ค.