ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 160.90 จุดรับ"เบอร์นันเก้"หนุนศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 27, 2012 06:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงอ่อนแอ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าเฟดอาจจะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม หรืออาจจะอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดการเงินเพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 160.90 จุด หรือ 1.23% 13,241.63 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 19.40 จุด หรือ 1.39% ปิดที่ 1,416.51 จุด ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 54.65 จุด หรือ 1.78% ปิดที่ 3,122.57 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นหลังจากเบอร์นันเก้กล่าวสุนทรพจน์ต่อสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติ ที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ในวันนี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังอ่อนแอ แม้ตัวเลขจ้างงานได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 3 เดือนติดต่อกัน และอัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีก็ตาม ซึ่งหมายความว่า เฟดยังจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีก เพื่อให้การฟื้นตัวของตลาดแรงงานเดินหน้าต่อและกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ประธานเฟดยังระบุว่า การผลิตจะต้องขยายตัวเร็วกว่านี้ และอุปสงค์จากผู้บริโภคและภาคธุรกิจจะต้องเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งกว่านี้ เพื่อผลักดันให้ตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานปรับตัวดียิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะต้องได้รับการสนับสนุนจากการใช้นโยบายที่ผ่อนคลายและต่อเนื่อง

ถ้อยแถลงดังกล่าวของเบอร์นันเก้ถูกมองเป็นสัญญาณบวกว่า เฟดเตรียมที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกสักระยะ ถึงแม้ว่าในช่วงหลังมานี้ เศรษฐกิจสหรัฐได้ส่งสัญญาณขยายตัวขึ้นแล้วก็ตาม นอกจากนี้ ถ้อยแถลงของเบอร์นันเก้ยังสามารถชดเชยปัจจัยลบจากข้อมูลที่อ่อนแอด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐด้วย

โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.พ. ร่วงลง 0.5% มาอยู่ที่ 96.5 ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนม.ค.

ดัชนีหุ้นกลุ่มสุขภาพพุ่งขึ้น 1.7% โดยหุ้นเอทนาทะยานขึ้น 3.1% หุ้นยูไนเต็ด แคร์ พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นไฟเซอร์พุ่งขึ้น 1.6% และหุ้นเทเน็ท เฮลธ์แคร์ พุ่งขึ้น 5.5%

หุ้นแอปเปิล อิงค์ พุ่งขึ้น 1.8% ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 606.98 ดอลลาร์ หลังจากนายทิม คุ๊ก ซีอีโอของแอปเปิลยืนยันว่า แอปเปิลจะลงทุนในประเทศจีนเพิ่มขึ้น ขณะที่หุ้นอเมซอน อิงค์ พุ่งขึ้น 2.2%

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น 1.5% โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ทะยานขึ้น 2.2%

หุ้นไลออนส์ เกท เอนเตอร์เทนเมนท์ พุ่งขึ้น 4.5% หลังจากที่มีรายงานว่า บริษัทสามารถทำได้รายจากการฉายภาพยนตร์เรื่อง “The Hunger Games" สูงถึง 155 ล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนม.ค. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนมี.ค. วันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2554 และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.พ. และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนมี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ