นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ของบมจ.กสท โทรคมนาคม(CAT) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการ ในสัปดาห์หน้าจะเร่งหารือถึงแผนเพื่อรองรับว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้างต่อกสทฯ ในอนาคต หลังจากที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ระบุว่าผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบว่าสัญญา 3G HSPA ระหว่างกสทฯ และ กลุ่ม บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE) พบสิ่งผิดปกติใน 5 ประเด็น
อย่างไรก็ตาม กสทฯ ต้องการให้กระทรวงไอซีทีมีความชัดเจนในการดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะกสทฯ ให้ความสำคัญใน 3 เรื่องหลัก คือ กฎระเบียบ นโยบายกระทรวงไอซีที และการอยู่รอดเชิงพาณิชย์ของกสทฯ ในอนาคต ซึ่งหากภาครัฐยิ่งดำเนินการช้า กสทฯ ก็ยิ่งแย่ตามไปด้วย เพราะทุกเหตุการณ์เกิดขึ้นได้หมด อาทิ สัญญาอาจถูกยกเลิก, ผลกระทบต่อการขยาย 3G ของกสทฯ ในอนาคตด้วย ดังนั้น ความชัดเจนจากภาครัฐจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด ซึ่งทุกอย่างต้องอาศัยการตัดสินใจที่รอบคอบ
ทั้งนี้ การเตรียมแผนรองรับและแผนธุรกิจของกสทฯ ครั้งนี้ ถือเป็นภารกิจแรกของนายกิตติศักดิ์ หลังเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมาแทนนายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง ที่ลาออกไปเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 54 โดยนายกิตติศักดิ์เคยดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์องค์กร ของกสทฯ เมื่อ 3 ปีก่อนหน้านี้
ขณะที่กลุ่ม TRUE ได้ส่งหนังสือชี้แจงว่า ยังไม่ได้รับผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการจากทางกระทรวงไอซีที แต่ยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปอย่างถูกต้อง คือ ไม่ได้หลีกเลี่ยง พ.ร.บ. ร่วมทุน พ.ศ.2535 เพราะโครงการนี้ไม่เข้านิยามคำว่ากิจการของรัฐ จากสาเหตุที่กสทฯ แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชน และเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)เช่นเดียวกับผู้ได้รับใบอนุญาตรายอื่น และทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้มีการพิจารณาตรวจสอบสัญญาต่างๆ แล้ว
นอกจากนี้ การให้บริการ 3 จี ยังไม่ได้เป็นการผูกขาดหรือกีดกันการแข่งขัน เนื่องจากผู้ประกอบกิจการขายต่อบริการรายอื่นๆ สามารถขอซื้อบริการจากกสทฯ ได้ ซึ่งจะทำให้จำนวนสัดส่วนการให้บริการขอทรูลดลงโดยธรรมชาติ โดยขณะนี้มีการให้บริการ 3 จี 2 ราย คือ ทรูมูฟเอช และ มาย