ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังดัชนีสำคัญพุ่งแตะระดับสูงสุดของปี 2555 รับถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก่อนการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนมี.ค.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 17.94 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 13,259.57 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น1.70 จุด หรือ 0.12% แตะที่ 1,418.21 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.56 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 3,124.130 จุด
บรรยากาศของตลาดยังคงได้รับแรงหนุนหลังจากนายเบอร์นันเก้กล่าววานนี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังอ่อนแอ แม้ตัวเลขจ้างงานได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 3 เดือนติดต่อกัน และอัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีก็ตาม ซึ่งหมายความว่า เฟดยังจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีก เพื่อให้การฟื้นตัวของตลาดแรงงานเดินหน้าต่อและกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ
ถ้อยแถลงดังกล่าวของเบอร์นันเก้ถูกมองเป็นสัญญาณบวกว่า เฟดเตรียมที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกสักระยะ ถึงแม้ว่าในช่วงหลังมานี้ เศรษฐกิจสหรัฐได้ส่งสัญญาณขยายตัวขึ้นแล้วก็ตาม
ในวันนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่าดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ของสหรัฐลดลง 0.8% ในเดือนม.ค. จากเดือนธ.ค.ปี 2554 ขณะที่ราคาบ้านใน 16 เมืองใหญ่จากจำนวน 20 เมืองได้ปรับตัวลง ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคที่อยู่อาศัยปรับตัวย่ำแย่เมื่อเทียบกับภาคอื่นๆของเศรษฐกิจสหรัฐ
ตลอดสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐมีการเปิดเผยข้อมูลภาคที่อยู่อาศัยที่ย่ำแย่กว่าที่คาด ไม่ว่าจะเป็น ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านลดลง 1.1% ในเดือนก.พ. มาอยู่ที่ 698,000 ยูนิต ยอดขายบ้านมือสองที่ลดลงผิดคาดสู่ระดับ 4.59 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. รวมทั้งยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.ที่ปรับตัวลง 1.6% สู่ระดับ 313,000 ยูนิต โดยข้อมูลดังกล่าวต่างก็ตอกย้ำถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ที่จะมีการเปิดเผยในคืนนี้ ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่าความเชื่อมั่นจะลดลงสู่ 70 จากระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 70.8