ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดร่วง หลังจนท.อีซีบีเตือนวิกฤตหนี้ยุโรป

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 มี.ค.) หลังจากนายเจนส์ ไวด์มานน์ สมาชิกสภาบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า มาตรการอัดฉีดสภาพคล่องของอีซีบีไม่ได้ช่วยแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะของยูโรโซน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% แตะที่ 264.10 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง 80.10 จุด หรือ 1.13% ปิดที่ 6,998.80 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง 39.44 จุด หรือ 1.14% ปิดที่ 3,430.15 จุด และดัชนี FTSE 100 ดิ่งลง 60.56 จุด หรือ 1.03% ปิดที่ 5,808.99 จุด

ไวด์มานน์กล่าวว่า แนวโน้มในการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซนยังคงไม่แน่นอน พร้อมกับเตือนว่ามาตรการปล่อยเงินกู้ฉุกเฉินของอีซีบีได้ก่อให้เกิดความเสี่ยงรุนแรงและเป็นเพียงการซื้อเวลาในการจัดการกับต้นตอของวิกฤติหนี้ภูมิภาค เพราะฉะนั้นอีซีบีต้องเริ่มหาแนวทางที่จะถอนมาตรการต่างๆที่มีจุดประสงค์ในการแก้วิกฤต

ทั้งนี้ อีซีบีได้จัดสรรสภาพคล่องกว่า 1 ล้านล้านยูโร (1.31 ล้านล้านดอลลาร์) ในการปล่อยเงินกู้ 2 ครั้งในวันที่ 21 ธ.ค.ปีที่แล้ว และวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีการผ่อนคลายข้อกำหนดด้านหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสี่ยงแก่ระบบธนาคาร

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนในระหว่างวัน จากข่าวที่ว่าอิตาลีขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนได้ 8.5 พันล้านยูโรเมื่อวานนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 1.12% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2553 และลดลงจากระดับ 1.20% ในการประมูลเมื่อเดือนที่แล้ว โดยการประมูลครั้งนี้มีความต้องการซื้อตั๋วเงินคลังสูงกว่ามูลค่าที่นำออกประมูลอยู่ 1.51 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 1.36 เท่าในเดือนกุมภาพันธ์

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การประมูลขายตั๋วเงินคลังครั้งนี้มีดีมานด์แข็งแกร่ง ซึ่งนับว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับการประมูลขายเมื่อวันอังคาร ส่วนอัตราผลตอบแทนไม่ได้ลดลงมาก แต่ถือว่าอยู่ในระดับต่ำแล้ว ดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยที่อัตราผลตอบแทนจะลดลงอีก

หุ้นธนาคารบังคา ป๊อปปูเลร์ เดอ มิลาโน ร่วงลง 5.4% ขณะที่หุ้นเจเคเอ็กซ์ ออยล์ แอนด์ แก๊ส ร่วงลง 14%

ส่วนหุ้นโนเกีย ดีดตัวขึ้น 3.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของสเวดแบงก์ เอบี ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นโนเกียขึ้นสู่ระดับ "buy" จากระดับ "neutral"