นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม (THCOM) คาดว่า ในเร็วๆนี้ จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศกัมพูชา ที่ประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ธุรกิจดังกล่าวขาดทุน 100 กว่าล้านบาท/ไตรมาส ทำให้กระทบต่อผลประกอบการโดยรวมของบริษัท แต่เชื่อว่าจะขาดทุนลดลงได้ในปีนี้
"ขณะนี้มีผู้สนใจเข้ามาเจรจาซื้อกิจการ ซึ่งการเจรจามีความคืบหน้าไปมาก หรือหากบริษัทต้องการดำเนินธุรกิจต่อก็จำเป็นต้องหาพันธมิตร คาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้" นางศุภจี กล่าว
ส่วนดาวเทียมไอร์พีสตาร์ในปีนี้คาดว่าคุ้มทุนแน่นอน โดยอัตราการใช้ช่องสัญญาณปีนี้จะอยู่ที่ 32-35% จากปลายปีที่แล้ว 25% ซึ่งหากการใช้ช่องสัญญาณที่ 28% ก็เข้าสู้จุดคุ้มทุนแล้ว ซึ่งในไตรมาส 1/55 มีลูกค้าเซ็นสัญญาแล้ว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ และในเดือนนี้มีลูกค้าใหม่จากญี่ปุ่นเพิ่มอีก 1 รายที่ใช้บริการไอร์พีสตาร์ รวมมีลูกค้าจากญี่ปุ่นที่เป็นรายใหญ่แล้วจำนวน 3 ราย
ส่วน ไทยคม 5 เซ็นสัญญาแล้ว 80 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปีนี้จะรับรู้รายได้ทั้งปีที่ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย มาเลเซีย ซึ่งจะไปโฟกัสในจีนด้วยเพื่อขายอุปกรณ์ โดยร่วมมือกับ บริษัท Asia Satellite Telecommunications ในการสร้างดาวเทียมไทยคม 7 นั้นเป็นการร่วมลงทุนซึ่งขณะนี้มีลูกค้าเข้ามาบ้างแล้วบางส่วนโดยจะยิงดาวเทียมในปี 2557 ส่งผลให้ในอนาคตบริษัทสามารถเพิ่มแบนด์วิทมากขึ้นในอนาคตด้วย
นางศุภจี กล่าวถึงการไปโรดโชว์ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ที่ผ่านมาว่า มีการพบนักลงทุนขนาดใหญ่ 4-5 ราย ซึ่งทุกครั้งที่ไปโรดโชว์กลับมาทำให้มีมูลค่าการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งธุรกิจของบริษัทมีทั้งบรอดแบรนด์ บรอดแคสท์ จึงถือว่ามีความแตกต่างในการลงทุน ส่วนการที่รัฐบาลจะเปิดเสรีดาวเทียมรัฐบาล คงต้องไปเจรจากับรัฐบาลเรื่องต้นทุนที่เป็นธรรม เนื่องจากปัจจุบันบริษัทต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ 20.5% และต้องชำระภาษีด้วย หากเปิดแข่งขันเสรีให้ต่างชาติต้องมีการแข่งขันที่เท่าเทียมกันด้วยแต่เชื่อว่าประสบการณ์ 20 ปี ทำให้บริษัทแข่งขันได้ ส่วนการให้ประมูลทีวีดิจิตอลไม่กระทบต่อทีวีดาวเทียมเพราะกลุ่มเป้าหมายแตกต่างกันจึงโตแบบคู่ขนานกันมากกว่า