ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดร่วงลงในวันนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 86.31 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 13,040.69 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 13.56 จุด หรือ 0.97% แตะที่ 1,392.19 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง 25.31 จุด หรือ 0.82% แตะที่ 3,079.61 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 มี.ค. ลดลง 5,000 ราย มาอยู่ที่ 359,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551 ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 3,500 ราย มาอยู่ที่ 365,000 ราย โดยข้อมูลนี้ถูกมองว่าสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่า เพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์
เบสท์ บาย ร่วงลง 6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาส 4 ที่น้อยกว่าคาด และประกาศว่าจะปิดร้านค้า 50 แห่ง และลดการจ้างงาน 400 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกันในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ ขยายตัว 3% ในไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งเท่ากับตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ เนื่องจากการใช้จ่ายด้านทุนที่สูงเกินคาดได้ถูกหักลบกับยอดส่งออกที่ถูกปรับทบทวนลง
ตัวเลขจีดีพีที่ได้รับการเปิดเผยล่าสุด สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ โดยนับเป็นการขยายตัวไตรมาสที่ 10 ติดต่อกัน และเป็นอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในรอบกว่า 1 ปี หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.8% ในไตรมาส 3
รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงปลายเดือนมี.ค.ในวันพรุ่งนี้เวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจะอยู่ที่ 74.7 ในช่วงปลายเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 74.3 ในช่วงต้นเดือนมี.ค.