ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจในด้านบวกของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) เตือนว่า กรีซอาจจะต้องปรับโครงสร้างหนี้อีกครั้ง และยังกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ประท้วงซึ่งเกิดขึ้นในประเทศสเปน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 19.61 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 13,145.82 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 2.26 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 1,403.28 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับลง 9.60 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 3,095.36 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 มี.ค. ลดลง 5,000 ราย มาอยู่ที่ 359,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2551 ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 3,500 ราย มาอยู่ที่ 365,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ ขยายตัว 3% ในไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งเท่ากับตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ และนับเป็นการขยายตัวไตรมาสที่ 10 ติดต่อกัน อีกทั้งยังเป็นอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในรอบกว่า 1 ปี หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.8% ในไตรมาส 3
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ หลังจาเอสแอนด์พีเตือนว่า กรีซอาจจะต้องปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่
นอกจากนี้มีรายงานว่า ประชาชนชาวสเปนได้ออกมาชุมนุมประท้วงมาตรการเข็มขัดของรัฐบาล จนเป็นเหตุให้เกิดการปะทะรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตรวจ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการลดงบประมาณรายจ่าย และรัฐบาลอาจจะประสบความสำเร็จในการลดงบประมาณ
หุ้นอัลโค อิงค์ หุ้นแคทเตอร์ พิลลาร์ และหุ้นโคคา-โคลา ดีดตัวขึ้นกว่า 1.5% ส่วนหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา และหุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลงกว่า 1.4%
หุ้นเบสท์ บาย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการห้างค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่สุดของสหรัฐ ดิ่งลง 7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาส 4 ที่น้อยกว่าคาด และประกาศว่าจะปิดร้านค้า 50 แห่ง และลดการจ้างงาน 400 ตำแหน่ง
รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงปลายเดือนมี.ค.ในวันนี้เวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจะอยู่ที่ 74.7 ในช่วงปลายเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 74.3 ในช่วงต้นเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลรายได้และการบริโภคส่วนบุคคลเดือนก.พ. ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ารายได้ส่วนบุคคลจะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. หลังเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค.