สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 111,403 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขายรวม 101,670 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 91% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 8,622 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี (LB133A LB155A และ LB176A) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 5,395 ล้านบาท หรือคิดเป็น 63% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 504 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีสจำกัด (มหาชน) (AYCAL145A) หุ้นกู้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI155A) และหุ้นกู้มีประกันของบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (MBTH12OA) และ โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 321 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 27,461 ล้านบาท นักลงทุนกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศซื้อสุทธิ 20,998 ล้านบาท และกลุ่มของและนักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิ 11,812 ล้านบาท
วันนี้ Yield curve ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นในตราสารอายุ 3 ปี ขึ้นไป ประมาณ 1-4 bp. ปริมาณการซื้อขายส่วนใหญ่ยังคงกระจุกตัวอยู่ที่พันธบัตร ธปท. อายุ 14 วันที่มีการประมูลในวันนี้ ด้านนักลงทุนต่างชาติกลับมามีแรงซื้อในพันธบัตรระยะสั้น โดยตลาดคาดว่านักลงทุนต่างชาติน่าจะมีแรงซื้อต่อเนื่องในไตรมาสหน้า วันนี้นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 11,812 MB
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.03% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.64% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.01%