หุ้น KTB ราคาวิ่งขึ้น 0.57% มาอยู่ที่ 17.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 38.70 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.16 น. โดยเปิดตลาดที่ 17.60 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 17.60 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 17.50 บาท
บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯคาดว่า ธนาคารกรุงไทย(KTB)จะมีกำไรสุทธิ 1Q55 เท่ากับ 5.57 พันล้านบาท เติบโตอย่างมีนัยฯ กว่า 6 เท่าqoq และ 1.5% yoy ถือเป็นกำไรที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรายไตรมาส
ด้วยปัจจัยหนุนจากการลดลงของค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ ถึง 78.7% qoq สู่ระดับปกติที่เฉลี่ย 500 ล้านบาท/ไตรมาส จากที่สูงผิดปกติใน 4Q54 จากการเพิ่มขึ้นของสำรองหนี้ฯ เฉพาะรายในช่วงน้ำท่วม, การลดลงของค่าใช้จ่ายดำเนินงาน 7.3% qoq ด้วย Cost to income ratio ที่ลดลงเหลือ 49.3% จาก 53.2% ใน 4Q54 จากการลดลงของค่าใช้จ่ายฤดูกาล และค่าใช้จ่ายพิเศษช่วงน้ำท่วม และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานอื่นๆ (สุทธิจากค่าใช้จ่าย) ถึง 36.5% qoq ส่วนใหญ่เป็นผลจากการลดลงของส่วนแบ่งผลขาดทุนจาก KTC (KTB ถือหุ้นใหญ่ 49.45%) และการบันทึกเงินปันผลรับจากกองทุนวายุภักษ์ราว 170 ล้านบาทในงวดนี้ (อัตราเงินปันผล 0.5% ใน 2H54
อย่างไรก็ตาม แม้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิในงวดนี้จะลดลง 4.1% qoq ทั้งที่สินเชื่อยังเห็นการเติบโต 2% qoq แต่เนื่องจาก NIM ที่หดตัวลง 20bp สู่ระดับ 2.68% ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก-กู้ลง 0.125% ในช่วงปลายเดือน ก.พ.55 จึงกดดันให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิงวดนี้ลดลง นอกจากนี้ ธนาคารฯ ยังกลับมาจ่ายภาษีเงินได้ตามอัตราใหม่ที่ 23% เทียบกับ 4Q54 ที่มีการโอนกลับเป็นรายได้ โดยปัจจัยกดดันทั้ง 2 ปัจจัยไม่มีน้ำหนักเมื่อเทียบกับปัจจัยบวกข้างต้น จึงยังเห็นการเติบโตของกำไร 1Q55 อย่างมีนัยฯ
ทั้งนี้ ราคาหุ้น KTB ปัจจุบันเทียบกับ Fair value ปี 2555 ที่ 18.86 บาท อิง PBV 1.32 เท่า เหลือ upside เพียง 6% จึงแนะนำเพียงถือรับเงินปันผลสำหรับงวดปี 2554 ที่ 0.62 บาท/หุ้น (จ่ายปีละครั้ง)คิดเป็น Div yields เฉลี่ย 3.5% p.a