ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวได้ดีเกินคาด โดยหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง และช่วยหนุนดัชนี S&P 500 ดีดตัวขึ้นด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 7.72 จุด หรือ 0.06% แตะที่ 13,219.76 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 4.53 จุด หรือ 0.32% แตะที่ 1,413.00 จุด ดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 9.05 จุด หรือ 0.29% แตะที่ 3,100.62 จุด
สถาบัน ISM เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นแตะ 53.4 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 52.4 ในเดือนก.พ. ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 53
ตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตมีการขยายตัว ขณะที่ตัวเลขต่ำกว่า 50 สะท้อนถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนอยู่ที่ระดับ 53.1 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้น 10 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P 500 โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน พุ่งขึ้น 2.3% หุ้นอัลฟา เนเชอรัล ซึ่งเป็นผู้ผลิตถ่านหิน ทะยานขึ้น 4.7%
หุ้นเอวอน พุ่งขึ้น 18% ขณะที่หุ้นกรุ๊ปปอน ดีดขึ้น 12%
อย่างไรก็ตาม หุ้น Amazon.com ร่วงลง 1.8% หลังจากแบงก์ ออฟ อเมริกา ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว