นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/55 ออกมาดีมาก เนื่องจากในไตรมาสนี้มีค่าการกลั่นออกมาสูงถึง 7 เหรียญ/บาร์เรล และค่าการตลาดเฉลี่ยทั้งไตรมาสอยู่ที่ 1.50 บาท/ลิตร ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าพอใจ รวมทั้งมีกำลังการกลั่นสูงถึง 1 แสนบาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2/55 คาดว่า ผลประกอบการอาจได้รับผลกระทบ จากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น เป็นเวลา 30 วัน
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ทั้งปี 55 กำลังการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 9.6 หมื่นบาร์เรล/วัน สูงกว่าปีก่อนที่ 8.5 หมื่นบาร์เรล/วัน และค่ากการกลั่นในปีนี้จะไม่ต่ำกว่า 6 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องจากบริษัทมีการทำประกันความเสี่ยงค่าการกลั่น ระดับ 30% ของกำลังการกลั่นทั้งหมด ขณะที่ กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA)ในปีนี้ยังคงระดับที่ 7 พันล้านบาทไม่รวมสต็อกน้ำมัน
ในส่วนของการขายน้ำมันเตา ขณะนี้ยังคงขายให้กับประเทศญี่ปุ่นที่โรงไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าเพื่อชดเชยโรงไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ที่หยุดการผลิตไป โดยในช่วงเดือน พ.ค. นี้จะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายระยะยาวกับประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากช่วงระหว่าง 8-17 เม.ย. บริษัทต้องส่งน้ำมันเตาให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) จำนวน 30 ล้านลิตร เนื่องจากพม่า จะหยุดส่งก๊าซให้กฟผ. จึงจำเป็นต้องใช้น้ำมันเตาในการผลิตไฟฟ้า