สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 91,227 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขายรวม 78,015 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 86% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 10,097 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 1 ปี 3 ปี และ 9 ปี (LB133A LB155A และ LB21DA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 5,854 ล้านบาท หรือคิดเป็น 58% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 1,155 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL145A) หุ้นกู้ของบริษัทโกลว์ พลังงาน จำกัด(มหาชน) (GLOW194A) และหุ้นกู้ของบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (MBTH12OA) และ โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 778 ล้านบาท หรือคิดเป็น 67% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 27,023 ล้านบาท นักลงทุนกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศซื้อสุทธิ 4,052 ล้านบาท และกลุ่มของและนักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิ 3,657 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ค่อนข้างคงที่ในทุกช่วงอายุของตราสารหนี้ ภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ในวันนี้ ปริมาณการซื้อขายส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่พันธบัตรระยะสั้นที่มีการประมูลในวันนี้ โดยในช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆที่มากระทบตลาด สำหรับตัวเลขเงินเฟ้อที่ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ ของเดือนมีนาคม เท่ากับ 2.77% ซึ่งยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมาย (0.5% — 3.0%) ที่กำหนดไว้
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.03% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดคงที่ที่ 3.65%