ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เฟดยังไม่มีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ในระยะนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานภายในประเทศที่ขยายตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 64.94 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 13,199.55 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 5.66 จุด หรือ 0.405 ปิดที่ 1,413.38 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 6.13 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 3,113.57 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากรายงานการประชุมของเฟดระบุว่า แม้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) รับรู้ถึงสัญญาณการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งขึ้นของเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่คณะกรรมการเฟดยังคงกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม แต่ถึงกระนั้นก็ตาม คณะกรรมการเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการ QE3 ในระยะนี้ เมื่อพิจารณาจากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานในสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 1.3% ในเดือนก.พ. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5%
รายงานของกระทรวงระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าทุน ซึ่งไม่นับรวมเครื่องบิน ปรับตัวขึ้น 1.7% ในเดือนก.พ. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.2% ส่วนยอดการส่งมอบสินค้าใหม่ของโรงงาน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4%
นอกจากนี้ นักลงทุนในตลาดนิวยอร์กยังวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศยูโรโซน โดยเฉพาะสเปน เมื่อรัฐบาลสเปนเปิดเผยว่า สัดส่วนหนี้สินของสเปนอาจจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 79.8% ของจีดีพีในปี 2555 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2533 ขณะที่ตลาดแรงงานของสเปนก็ถดถอยลงอย่างมาก เนื่องจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานพุ่งขึ้นเกือบ 39,000 ราย แตะระดับกว่า 4.75 ล้านคน ณ สิ้นเดือนมี.ค.
นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่อธุรกิจ รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มวัสดุซึ่งร่วงลง 1% และ 0.9% ตามลำดับ โดยหุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง ร่วงลง 3.4% หุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี คอร์ป ดิ่งลง 3.5% และหุ้นทรานส์โอเชียน ร่วงลง 2.8%
ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคาร (KBW Bank Index) ร่วงลง 0.3% โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ร่วงลง 1.5% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดิ่งลง 1.8% และหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 2.2%
ห้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ร่วงลง 4.6% หลับงจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
อย่างไรก็ตาม หุ้นแอปเปิล อิงค์ พุ่งขึ้น 1.7% หลังจากนักวิเคราะห์จาก Topeka Capital Markets คาดว่าราคาหุ้นของแอปเปิล อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก จะพุ่งเหนือ 1,000 ดอลลาร์ภายใน 12 เดือนหน้า
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนมี.ค. และสถาบัน ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค.
ส่วนวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.