นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.อมตะคอร์ปอเรชั่น (AMATA) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะเห็นการปรับเป้ายอดขายที่ดินในปีนี้เพิ่มหลังจากครึ่งหลังไปแล้ว จากเป้ายอดขายเดิมที่ 3,000 ไร่ เนื่องจากพบว่ายอดขายในไตรมาส 1/55 มีค่อนข้างดีเกือบ 1,000 ไร่ จากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่เข้ามาทั้งในนิคมอมตะนครและอมตะซิตี้ โดยเฉพาะอมตะซิตี้มีลูกค้ารายใหม่เข้ามาซื้อที่ดิน เช่น บ.บริดสโตน 544 ไร่ ซื้อที่ดินเพื่อขยายกำลังการผลิตยางขนาดใหญ่ จากปัจจุบันบริดสโตนเป็นลูกค้าอยู่ในอมตะนครอยู่แล้ว และบริษัทผลิตรถยนต์จงเช่อร์ยืนยันการซื้อขายที่ดิน 350 ไร่ หรือเป็นมูลค่าที่ 700 ล้านบาท คาดว่าจะซื้อในไตรมาส 2/55 โดยการซื้อที่ดินของจงเช่อร์เป็นการซื้อผ่านบริษัทร่วมทุน คือ บ.ไทยจีนอุตสาหกรรมระยองเซอร์วิส โดย AMATA ถือหุ้น 51% โฮลี่ 49% และคาดว่าในระยะสั้นพื้นที่ดินจากบ.ร่วมทุนจำนวน 1,000 ไร่นี้จะเต็มพื้นที่จากปัจจุบัน 50%
ทั้งนี้ ยอดขาย 3 พันไร่ดังกล่าวคาดว่าจะโอนได้ในปีนี้ 1,000 ไร่คิดเป็นเม็ดเงิน 4 พันล้านบาท จาก 3.5 พันล้านบาทในปีก่อน ตอนนี้ยังมีลูกค้าในมือมากทั้งจากลูกค้าเดิมและรายใหม่ ลูกค้าหลักยังเป็นญี่ปุ่นกว่า 60%
นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการเจรจากับโฮลี่ในการขยายพื้นที่เพิ่มอีก 2,000 ไร่ เพื่อรองรับปริมาณการขยายตัวของผู้ประกอบการในประเทศจีน ซึ่งใน 50% เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งจากการที่ยอดขายที่ดินในปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจะส่งผลให้รายได้รวมในปี 55 ประมาณ 6-7 พันล้านบาท จาก 4.2 พันล้านบาทในปีก่อน โดย 70% เป็นรายได้มาจากขายที่ดิน 23-24% จากสาธารณูปโภคและบริการ ที่เหลือเป็นอื่นๆ
"เรามีแผนที่จะเดินทางไปจีนกับนายกฯ เพื่อพบปะนักลงทุนซึ่งถือเป็นโอกาสที่เราจะแนะนำและดึงลูกค้าจากจีนเข้ามาในนิคมฯของเรา และเราก็มั่นใจว่าการที่เรามีโฮลี่เป็นผู้ร่วมทุนจะสร้างประโยชน์ในการขายที่ดินและยังเป็นการกระจายความเสี่ยงเพราะจีนกำลังโต" นายวิบูลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีที่ดินที่รอการพัฒนาอยู่ 1.5 หมื่นไร่แบ่งเป็นอมตะนครฯ 1 หมื่นไร่ อมตะซิตี้ 5,000 ไร่ รองรับการพัฒนาได้อีกใน 3 ปีข้างหน้า
บริษัทมีความสนใจที่จะเข้าไปพัฒนาที่ดินในประเทศพม่า ยอมรับว่าได้มีการเข้าไปคุยกับ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) แล้วในเบื้องต้น คาดใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 200 ล้านเหรียญสหรัฐ