พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ (พ.ศ. 2555) แผนแม่บทกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2555 - 2559 ) และแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2555 — 2559) เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2555 โดยแผนแม่บททั้งสามฉบับดังกล่าวได้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2555 เป็นต้นไป
ประธาน กสทช. กล่าวว่า นับแต่บัดนี้เป็นต้นไปจะเป็นการก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงสำคัญของประเทศ ในด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม โดยในกิจการโทรทัศน์จะมีการปรับเปลี่ยนระบบทีวีจาก Analog ไปสู่ Digital สำหรับกิจการโทรคมนาคมจะมีการพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น 3G ภายใต้คลื่นความถี่ 2.1GHz รวมทั้ง จะมีการให้ความสำคัญในการคุ้มครองผู้บริโภค และลดความเลื่อมล้ำในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่สังคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี พ.ศ. 2558
ทั้งนี้แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ (พ.ศ.2555) ได้กำหนดกรอบแผนแม่บทให้มีแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับคลื่นความถี่ระหว่างประเทศ กำหนดให้มีแนวทางการคืนคลื่นความถี่เพื่อนำไปจัดสรรใหม่หรือการปรับปรุงการใช้คลื่นความถี่ กำหนดให้มีการใช้งานคลื่นความถี่ด้านความมั่นคงตามความจำเป็น กำหนดให้มีการใช้งานคลื่นความถี่ด้านภารกิจเพื่อการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และในกรณีที่เกิดเหตุฉุนเฉินและภัยพิบัติ รวมถึงเพื่อประโยชน์สาธารณะ
รวมทั้งกำหนดเวลาในการเปลี่ยนไปสู่ระบบการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล และกำหนดให้มีการจัดให้ภาคประชาชนได้ให้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
โดยมีเครื่องมือในการบริหารคลื่นความถี่ ประกอบด้วย ตารางกำหนดคลื่นความถี่ (Spectrum Allocation Table) แผนความถี่วิทยุ (Spectrum Allotment) และ การจัดสรรคลื่นความถี่ (Spectrum Assignment)
สำหรับการคืนคลื่นความถี่เพื่อนำไปจัดสรรใหม่หรือปรับปรุงการใช้คลื่นความถี่มีแนวทางให้ผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่โดยชอบด้วยกฎหมายที่มีการกำหนดอายุให้คืนคลื่นความถี่เมื่อสิ้นสุดอายุการอนุญาต
กรณีผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่โดยชอบด้วยกฎหมายที่มิได้กำหนดอายุการใช้คลื่นความถี่ไว้ กสทช. จะกำหนดเวลาสิ้นสุดการใช้คลื่นความถี่ โดยคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะความจำเป็นของการประกอบการกิจการและการใช้คลื่นความถี่
โดยกรณีกิจการกระจายเสียงให้มีระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่แผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ใช้บังคับ
กรณีกิจการโทรทัศน์ให้มีระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่แผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ใช้บังคับ และ
กรณีกิจการโทรคมนาคมและกิจการอื่นให้มีรยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 15 ปี นับแต่วันที่แผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ใช้บังคับ ทั้งนี้ ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้กับประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากนี้ ตามแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ได้จัดทำแผนการเปลี่ยนไปสู่ระบบการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล โดยจะต้องมีการกำหนดรายละเอียดของแนวทางการเรียกคืนคลื่นความถี่ การจัดสรรคลื่นความถี่ การเริ่มต้นการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลภายใน 5 ปี นับแต่วันที่แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ใช้บังคับ และกำหนดช่วงเวลาการสิ้นสุดการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบแอนะล็อก ตามระยะเวลาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารคลื่นความถี่ตามแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่บรรลุเป้าหมายและสามารถติดตามประเมินผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติและการประเมินผลไว้ให้ กสทช. นำแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ไปสู่การปฏิบัติ โดยให้มีการจัดทำแผนความถี่วิทยุ รวมทั้งแผนปฏิบัติการของสำนักงาน กสทช. ซึ่งประกอบด้วย แผนงาน โครงการ กิจกรรม หน่วยงานที่รับผิดชอบ ระยะเวลาดำเนินการ ฐานข้อมูลการใช้คลื่นความถี่ที่เป็นปัจจุบัน ตัวชี้วัดและแนวทางการติดตามประเมินผลที่สอดคล้องกับแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี และจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานอย่างเพียงพอ พร้อทั้งประสานงานกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
และให้ กสทช. ติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่และต้องปรับปรุงแผนแม่บทดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการบริหารคลื่นความถี่ให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างน้อยทุก 2 ปี