นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ การถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.จะเสนอให้คณะกรรมการร.ฟ.ท. พิจารณาปรับเพิ่มกรอบวงเงินโครงการรถไฟสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต เป็นเงิน 80,373 ล้านบาท จากเดิม 75,548 ล้านบาท
แบ่งเป็น สัญญาที่ 1 เพิ่มเป็น 30,078 ล้านบาท จากเดิม 27,344 ล้านบาท สัญญาที่ 2 เพิ่มเป็น 21,406 ล้านบาท จากเดิม 18,861 ล้านบาท และ สัญญาที่ 3 เพิ่มเป็น 28,899 ล้านบาท จากเดิม 26,272 ล้านบาท และจะเสนอให้ครม.พิจารณาต่อไป
"การปรับกรอบวงเงินดังกล่าว เป็นการปรับเพิ่มกรอบวงเงินตามระเบียบพัสดุของการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ.2544 ที่เปิดโอกาสให้ปรับเพิ่มกรอบวงเงินได้ไม่เกิน 10% ซึ่งร.ฟ.ท.จะเสนอแนวทางนี้เป็นทางออกในการปรับเพิ่มกรอบวงเงิน และทำให้เกิดปัญหาความล่าช้ามากว่า 1 ปี สาเหตุที่ต้องปรับกรอบวงเงิน เพราะกรอบวงเงินเดิมคิดเมื่อปี 2552 แต่ขั้นตอนดำเนินงานจนกว่าจะประกวดราคาแบบนานาชาติใช้เวลากว่า 4 ปี ทำให้ราคาไม่เป็นปัจจุบัน คาดว่าภายใน 1 เดือนหลังจากนี้จะมีความชัดเจนในการดำเนินงานมากขึ้น"นายยุทธนา กล่าว
ส่วนการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคสัญญาที่ 3 นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอประกวดราคา ซึ่งฝ่ายกฎหมายจะพิจารณากรณีที่ผู้เข้าร่วมประมูล 2 รายที่เป็นบริษัทญี่ปุ่นอาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ฮั้วประมูล เนื่องจากบริษัทมิตซูบิชิ อินดัสตรี จำกัด และบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่เข้าร่วมประมูลในสัญญานี้ มีกรรมการอิสระ 1 คนเข้าไปเป็นกรรมของทั้ง 2 บริษัท ซึ่งตามพ.ร.บ.ฮั้วประมูลถือว่ามีความเกี่ยวข้องกัน แต่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือไจก้า ในฐานะเจ้าของเงินกู้โครงการดังกล่าว เห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน