ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:วิตกปัญหาหนี้ยุโรป ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 124.80 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 5, 2012 06:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) ทำสถิติร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากมีรายงานว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีและสเปนปรับตัวสูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 124.80 จุด หรือ 0.95% ปิดที่ 13,074.75 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 14.42 จุด หรือ 1.02% ปิดที่ 1,398.96 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง 45.48 จุด หรือ 1.46% ปิดที่ 3,068.09 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวนเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงผิดหวังที่เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการ QE3 แม้เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงก็ตาม และตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้น เมื่อมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับลดคาดการณ์ความเป็นไปได้ที่เฟดจะใช้มาตรการ QE3 เหลือเพียง 1 ใน 3 จากเดิมที่คาดว่ามีโอกาส 2 ใน 3

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสเปนขายพันธบัตรระยะกลางได้เพียง 2.6 พันล้านยูโร (3.4 พันล้านดอลลาร์) ในการประมูลเมื่อวานนี้ ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้น และมีรายงานว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลอิตาลีก็ปรับตัวขึ้นเช่นกนี้ ซึ่งผลการประมูลครั้งนี้ยิ่งจุดปะทุความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้สินของสเปนและอิตาลี

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวภายหลังการประชุมนโยบายการเงินเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง และความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นมากกว่าที่จะลดลงในปีนี้

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปและความผิดหวังที่เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณ QE3 ได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของ ADP Employer Services ที่ระบุว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปได้ฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 3% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ร่วงลง 2.2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 3.5% และหุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 3.6%

หุ้นกลุ่มวัสดุและเหมืองแร่ร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง ดิ่งลง 3.6% หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แรน คอปเปอร์ ร่วงลง 1.4% และหุ้นอัลโค อิงค์ วงลง 2.5%

หุ้นแซนดิสก์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเมมโมรีการ์ดและชิพ ร่วงลง 11% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ ขณะที่หุ้นเจนเนอร์รัล อิเล็กทริก (จีอี) ดิ่งลง 1.1% หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของจีอีลง 2 ขั้น

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.จะเพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมี.ค.จะทรงตัวที่ 8.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ