ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าภาวะซบเซาในตลาดแรงงานอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 130.55 จุด หรือ 1.00% ปิดที่ 12,929.59 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 15.88 จุด หรือ 1.14% แตะที่ 1,382.20 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวลง 33.42 จุด หรือ 1.08% แตะที่ 3,047.08 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลด้านแรงงานของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 120,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งน้อยกว่าคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ว่าจะเพิ่มขึ้น 203,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 3 เดือนก่อนที่ 246,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานขยับลงเล็กน้อยสู่ระดับ 8.2% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนม.ค.2552
รายงานระบุว่า ภาคเอกชนจ้างงานเพิ่ม 121,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่การจ้างงานในภาครัฐบาลลดลง 1,000 ตำแหน่ง
จำนวนชาวอเมริกันที่ว่างงานแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 12.7 ล้านคนในเดือนมี.ค. และจำนวนการว่างงานระยะยาว ซึ่งหมายถึงประชาชนที่ไม่มีงานทำมาเป็นเวลามากกว่า 6 เดือน อยู่ที่ 5.3 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 42.5% ของจำนวนผู้ว่างงานทั้งหมด โดยรายงานระบุว่านับแต่เดือนเม.ย.2553 จำนวนการว่างงานระยะยาวได้ลดลง 1.4 ล้านคน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อของจีน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 3.6% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.3% ข้อมูลดังกล่าวได้ลดน้ำหนักของกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางจีนจะผ่อนคลายนโยบายการเงินในวันข้างหน้า
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 2.9% หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 2.1%
หุ้นแคทเตอร์พิลลาร์ ร่วงลง 2.3% หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก ร่วงลง 1.8%
อย่างไรก็ตาม หุ้นอัลโค อิงค์ ดีดตัวขึ้น 0.4% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกในวันพรุ่งนี้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.พ. วันพุธ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค., กระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนมี.ค.
วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.พ. , กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนเม.ย.