ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,154.49 จุด ลดลง 11.12 จุด(-0.95%)มูลค่าการซื้อขาย 25,993.79 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่อยู่ระดับ 1,161.53 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,151.21 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 171 หลักทรัพย์ ลดลง 358 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 140 หลักทรัพย์
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์สำหรับลูกค้าสถาบัน บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นตลาดจีนที่ได้พลิกกลับมาปิดบวกในตอนท้าย ภายหลังจากตัวเลขการค้าได้ออกมาเกินดุลในงวดเดือนมี.ค. จากที่ก่อนหน้านี้จะขาดดุลการค้า
ทั้งนี้ ตลาดฯได้รับแรงกดดันจากวิกฤตในยุโรปที่เป็นปัญหา จากที่ Bond yield ของสเปนและอิตาลีได้ปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งก่อนหน้านี้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯก็ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ จากความกังวลนี้ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะขายหุ้นออกมาก่อน และหันไปซื้อตราสารหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ, เยอรมัน และญี่ปุ่น แทน ทำให้เห็นได้ว่าค่าเงินเยน และเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้แข็งค่าขึ้นในช่วงนี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(12 เม.ย.)นายวรุตม์ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีสิทธิ์ที่จะอ่อนตัวลง เนื่องจากยังเผชิญกับปัจจัยกดดันเดิม ๆ อยู่ อีกทั้งในวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นทำการสุดท้ายของสัปดาห์นี้ก่อนที่จะหยุดทำการระยะยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ดังนั้นนักลงทุนอาจเลือกที่จะขายก่อนหยุดยาว พร้อมให้แนวรับ 1,145 จุด แนวต้าน 1,157 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,831.34 ล้านบาท ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,619.68 ล้านบาท ปิดที่ 578.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,441.21 ล้านบาท ปิดที่ 341.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,239.67 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,205.46 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท ลดลง 1.50 บาท