สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ.ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์(VIH) ได้กำหนดระยะเวลาเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 135 ล้านหุ้น ในช่วงวันที่ 30 เมษายน และ 2 พฤษภาคม 2555
ทั้งนี้ มีบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 2 ราย คือ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) หรือ KGI และบล.โนมูระ พัฒนสิน (CNS)
VIH มีจุดประสงค์การใช้เงินคือ 1.โครงการคลินิกการกีฬามูลค่า 50 ล้านบาท 2.ศูนย์การแพทย์แบบองค์รวม 35-40 ล้านบาท และ 3.โครงการบริหารต้นทุน 40-50 ล้านบาท โดยภายหลัง IPO สัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่(กลุ่มวนดุรงค์วรรณ)จะลดลงจาก 74.36% เหลือ 55.60% และสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนทั่วไปจะเท่ากับ 25.23% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน(CNS)ประเมินมูลค่าเหมาะสมของหุ้น VIH ไว้ที่ 2.00 บาท/หุ้น ด้วยวิธี DCF โดยคิดเป็น implied PER FY12F ที่ 16.67 เท่า อิง EPS ที่ 0.12 บาทต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่า PER เฉลี่ยของกลุ่มการแพทย์ ซึ่งอยู่ที่ 18.16 เท่า
ทั้งนี้ มองมีการเติบโตอย่างโดดเด่นของกำไรสุทธิ ปี FY12-14F ซึ่งคาดว่าจะเติบโตราว 17.2% CAGR จากการเน้นเพิ่มรายได้จากลูกค้ากลุ่ม Non-capitation ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง
อุตสาหกรรมธุรกิจการแพทย์ ยังมีทิศทางการเติบโตที่ดีจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เอาใจใส่และดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น, ทิศทางการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอนาคต, การเติบโตของจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่มารับการรักษาพยาบาลในไทย ตามแผนการเป็นศูนย์กลางการแพทย์เอเชียของภาครัฐ
บมจ.ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์(VIH) ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งธนบุรีและปริมณฑล โดยมีโรงพยาบาลในเครือ 3 โรงพยาบาล ในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ นครปฐม และสมุทรสาคร VIH มีโครงสร้างรายได้ที่มั่นคงจากสาขาอ้อมน้อยที่ตั้งอยู๋ใกล้เขตโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งรายได้จากโครงการประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวในจ.สมุทรสาคร ซึ่ง VIH มีส่วนแบ่งตลาดในจังหวัดสูงถึง 60% ขณะที่ Growth driver ของ VIH คือ สาขาหนองแขม ที่ได้ยกเลิกประกันสังคมเมื่อสิ้นปี 2554 โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าทั่วไป ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของโรงพยาบาลในเครือ VIH มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น