สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 116,664 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขายรวม 95,559 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 82% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 19,960 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 3 ปี และ 10 ปี (LB155A LB15DAและ LB21DA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 11,554 ล้านบาท หรือคิดเป็น 58% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 444 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT12DA), หุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI155A) และหุ้นกู้ของบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) (SCCC136A) และโดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 373 ล้านบาท หรือคิดเป็น 84% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 33,536 ล้านบาท บาท นักลงทุนกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศซื้อสุทธิ 4,455 ล้านบาท และกลุ่มของและนักลงทุนต่างชาติมีสถานะ ซื้อ สุทธิ 13,304 ล้านบาท
วันนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curve) ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงในตราสารอายุ 3 — 7 ปี หรือโดยเฉลี่ยแล้วปรับตัวลดลงในช่วง -7 ถึง -10 Basis Point ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ไทยในวันนี้ มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างคึกคักหลังจากวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีแรงซื้อเข้ามาในพันธบัตรระยะสั้นที่ประมูลในวันนี้ และในพันธบัตรอายุ 3 — 5 ปี เนื่องจากตลาดมองว่ามี Supply ของพันธบัตรออกใหม่ค่อนข้างน้อย
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.05% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.51% ปรับตัวลดลง 0.10% จากวันทำการก่อนหน้า