ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) เพราะได้รับปัจจัยลบหลายด้าน รวมถึงการที่นายอดัม โพเซน เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษได้ตัดสินใจยุติการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม, การร่วงลงของราคาบ้านในจีนซึ่งสะท้อนถึงภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และเงินกู้หนี้เสียที่เพิ่มขึ้นในสเปน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.7% แตะที่ 257.71 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6732.03 จุด ลบ 68.97 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3240.29 จุด ลบ 52.22 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5745.29 จุด ลบ 21.66 จุด
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรปได้กลับมาเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นยุโรปอีกครั้งเมื่อคืนนี้ หลังจากธนาคารกลางสเปนเปิดเผยว่า หนี้เสียในภาคธนาคารของสเปนพุ่งขึ้นแตะ 8.2% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 ปี ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าเ ศรษฐกิจสเปนอาจหดตัว 1.8% ในปีนี้
นายคริสเตียน ชูลซ์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารดาเรนเบิร์กของเยอรมนี ได้แสดงความกังวลว่า สเปนยังคงมีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเป้าหมายของวิกฤตหนี้สาธาราณะในยูโรโซน และระบุว่า แม้รัฐบาลสเปนประสบความสำเร็จในการประมูลขายตราสารหนี้ระยะสั้นได้ถึง 3.2 พันล้านยูโร (4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (17 เม.ย.) อันเนื่องมาจากความต้องการที่แข็งแกร่ง แต่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ซึ่งเป็นดัชนีวัดภาระการชำระหนี้เมื่อถึงวันไถ่ถอนนั้น ก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้สเปนต้องขอรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อมีรายงานว่า ราคาบ้านใน 37 เมืองขนาดใหญ่ จากทั้งหมด 70 เมืองของจีน ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และยังได้รับปัจจัยลบหลังจากที่นายอดัม โพเซน เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษได้ตัดสินใจยุติการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
รายงานการประชุมประจำวันที่ 4-5 เม.ย.ของธนาคารกลางอังกฤษระบุว่า นายโพเซนมีมติเห็นชอบร่วมกันเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินคนอื่นๆของธนาคารกลางอังกฤษว่า จะไม่มีการเพิ่มเป้าหมายโครงการซื้อสินทรัพย์วงเงิน 3.25 แสนล้านปอนด์ หรือ 5.17 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นกลุ่มธนาคารของสเปนร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นบังโค ซานตานเดร์ ดิ่งลง 4% หุ้นบังโค ป๊อปปูเลร์ เอสปานอล ร่วงลง 3.2% หุ้นไคซาแบงก์ ร่วงลง 3.5%
หุ้นเรพซอล วายพีเอฟ ร่วงลง 6.2% หลังจากรัฐบาลอาร์เจนติน่าปฏิเสธข้อเรียกร้องของเรพซอลในการจ่ายเงินชดเชยมูลค่า 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์ ให้กับบริษัทในเครือของเรพซอล
อย่างไรก็ตาม หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดบวก 0.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด และหุ้นไฮเนเก้น ปิดบวก 2.5% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดเช่นกัน