ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากธนาคารกลางสเปนเปิดเผยว่า หนี้เสียในภาคธนาคารของสเปนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐ รวมถึงไอบีเอ็ม และอินเทล คอร์ป
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 82.79 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 13,032.75 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 5.64 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 1,385.14 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 11.37 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 3,031.45 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากบริษัทหลายแห่งของสหรัฐรายงานผลประกอบการที่ต่ำเกินคาด รวมถึงอินเทล คอร์ป และไอบีเอ็ม ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ร่วงลง 0.9% ขณะที่หุ้นอินเทล คอร์ป ร่วงลง 1.8% หุ้นไอบีเอ็มร่วงลง 3.5% ส่วนหุ้นแอปเปิล อิงค์ ปรับตัวลง 0.2% แม้โกลด์แมน แซคส์ แนะนำให้นักลงทุน "ซื้อ" หุ้นแอปเปิลก็ตาม
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าอีซีบีอาจจะไม่ให้ความช่วยเหลือสเปนอีก และหลังจากที่นายเปโดร พาสโซส์ โคลโฮ นายกรัฐมนตรีโปรตุเกสได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ว่า โปรตุเกสอาจจะไม่สามารถกลับเข้ามาระดมทุนในตลาดทุนได้ตามที่คาดไว้ในปี 2556
ขณะที่ธนาคารกลางสเปนเปิดเผยว่า หนี้เสียในภาคธนาคารของสเปนพุ่งขึ้นแตะ 8.2% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 ปี ขณะที่นายคริสเตียน ชูลซ์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารดาเรนเบิร์กของเยอรมนี กล่าวว่า แม้รัฐบาลสเปนประสบความสำเร็จในการประมูลขายตราสารหนี้ระยะสั้นได้ถึง 3.2 พันล้านยูโร (4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (17 เม.ย.) อันเนื่องมาจากความต้องการที่แข็งแกร่ง แต่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ ก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้สเปนต้องขอรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กผันผวนมากขึ้นเมื่อทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนมี.ค.ร่วงลง 6.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และราคาบ้านใน 37 เมืองขนาดใหญ่ จากทั้งหมด 70 เมืองของจีน ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม หุ้นยาฮูปิดบวก 4.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 4.6% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดเช่นกัน
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมี.ค. และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค. ส่วนวันศุกร์ ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ