บทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)เช้านี้ ระบุว่า กรณีที่ จ.ภูเก็ตเจออาฟเตอร์ช็อกต่อเนื่องกว่า 50 ครั้ง ต้องติดตามว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงระยะสั้น หรือจะเกิดต่อไปอีกในอนาคต เพราะจะมีผลกระทบกับธุรกิจของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งในทางบวกและในทางลบ
ในกรณีหากพิจารณาในแง่ร้ายคือ การเกิดแผ่นดินไหวยังเกิดขึ้นต่อเนื่องในภูเก็ต สำหรับหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะได้รับผลประโยชน์ เช่น 1) SPF ซึ่งสนามบินตั้งอยู่ที่ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี ตั้งอยู่ชายฝั่งอ่าวไทย จึงไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว และนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มจะเปลี่ยนมาท่องเที่ยวที่สมุยแทนภูเก็ต และ 2) ผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยที่พัฒนาในเขตชายทะเลอื่นๆ เช่น ภาคตะวันออก ได้แก่พัทยา ซึ่งยังไม่มีเหตุแผ่นดินไหว ได้แก่ LPN, RAIMON และ MJD เป็นต้น
ส่วนหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบทางลบ ได้แก่ ธุรกิจการท่องเที่ยว เช่น MINT, THAI และ AOT แต่ไม่ถึงกับเต็มที่ เพราะเป็นส่วนเดียวของธุรกิจ ยังมีธุรกิจในสถานที่อื่นๆที่ไม่ได้รับผลลบจากแผ่นดินไหว เช่นเดียวกับผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยที่ไปลงทุนพัฒนาโครงการที่ภูเก็ต เช่น SIRI, PS และ SPALI แต่ก็เป็นเพียงส่วนเดียวของธุรกิจ
ทั้งนี้ คงคำแนะนำ ซื้อ SPF ราคาพื้นฐาน 12.66 บาท เทียบกับราคาปิดวานนี้ยังมีส่วนเพิ่มได้อีก 14% และคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 55 สูงเป็น 9% จ่ายทุกรายไตรมาส