สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 48,049 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขายรวม 33,715 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 70% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 8,230 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 3 ปี และ 10 ปี (LB155A LB15DAและ LB21DA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 4,988 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 1,150 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (MBTH12OA), หุ้นกู้ของ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC164A) และหุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL12OA) และโดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 653 ล้านบาท หรือคิดเป็น 57% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 6,783 ล้านบาท บาท นักลงทุนกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศซื้อสุทธิ 1,998 ล้านบาท และกลุ่มของและนักลงทุนต่างชาติมีสถานะ ซื้อ สุทธิ 1,783 ล้านบาท
วันนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curve) ค่อนข้างคงที่ในทุกช่วงอายุของตราสาร ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ไทยในวันนี้ ปริมาณการซื้อขายในตลาดรองค่อนข้างเบาบาง โดยผลการประมูลพันธบัตรของสเปนในวันนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ไทย ทั้งนี้คาดว่านักลงทุนจะให้ความสนใจในการเข้าประมูลพันธบัตรระยะสั้น และพันธบัตรอายุ 3 ปี ของธปท. ที่จะมีการประมูลในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.05% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดคงที่ที่ 3.52%