ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปน และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองที่ร่วงลง และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5744.55 ลบ 0.74 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนอ่อนแรงลงหลังจากอัตราดอกเบี้ย หรือ อัตราผลตอบแทน สำหรับพันธบัตรอายุ 10 ปีของสเปน อยู่ที่ 5.743% ในการประมูลเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.403% ในการประมูลครั้งก่อน
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนด้วย โดยสหรัฐระบุว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 เม.ย. ลดลง 2,000 ราย มาอยู่ที่ 386,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 370,000 ราย ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.ร่วงลง 2.6% มาอยู่ที่ระดับ 4.48 ล้านยูนิต ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นแตะที่ 4.62 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. จากเดือนก.พ.ที่ 4.59 ล้านยูนิต
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนด้วยการขายพันธบัตรอายุ 10 ปี และ 2 ปี เป็นวงเงินทั้งสิ้น 2.54 พันล้านยูโร (3.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของกรอบเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1.5 - 2.5 พันล้านยูโร เนื่องจากนักลงทุนให้การตอบรับอย่างท่วมท้วน
หุ้นโวดาโฟนพุ่งขึ้น 2.5% หลังจากมีข่าวว่าโวดาโฟนได้เลื่อนเวลาในการยื่นเสนอซื้อเคเบิล แอนด์ ไวร์เลส หลังจากบริษัททาทา คอมมูนิเคชันส์ของอินเดียถอนตัวจากการแข่งขันกับโวดาโฟน
หุ้นฮาร์กรีฟส์ แลนส์ดาวน์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดการการลงทุนรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 5.6% หลังจากทางบริษัทเปิดเผยว่า สินทรัพย์ภายใต้การจัดการเพิ่มขึ้น 2.6 พันล้านปอนด์ แตะที่ 2.6 หมื่นล้านปอนด์ ในไตรมาสแรกของปีนี้
หุ้นแมนกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจัดการลงทุนรายใหญ่อีกแห่งหนึ่งของอังกฤษ ดิ่งลง 6.2%