ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 51 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 12,953 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า บวก 0.4% แตะที่ 1,377.4 จุด ณ เวลา 07.27 น.ตามเวลานิวยอร์ก หลังจากที่บริษัทเจเนอรัล อิเล็คทริก โค (จีอี) และ ชลัมเบอร์เกอร์ เปิดเผยผลประกอบการณ์ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด
หุ้นจีอีเพิ่มขึ้น 1.3% หลังเปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทมีกำไร 34 เซนต์ต่อหุ้นในไตรมาสที่ 1 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์โดยเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ที่ระบุว่าบริษัทอาจมีกำไรเพียง 33 เซนต์
หุ้นชลัมเบอร์เกอร์เพิ่มขึ้น 2.4% หลังบริษัทรายงานรายได้ต่อหุ้นที่สูงกว่าการคาดของนักวิเคราะห์เช่นเดียวกัน
หุ้นไมโครซอฟต์ทะยานขึ้น 3.4% ถึงแม้ว่าบริษัทจะระบุว่ารายได้สุทธิลดลงสู่ 5.11 พันล้านดอลลาร์ หรือ 60 เซนต์ต่อหุ้น จาก 5.23 พันล้านดอลลาร์ หรือ 61 เซนต์ต่อหุ้นในปีก่อน
ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าได้แรงหนุนหลังจากสถาบัน Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนีในเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้นแตะ 109.9 จากระดับ 109.8 ในเดือนมี.ค. นับเป็นปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และยังเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจเยอรมนี
นอกจากนี้ ดาวโจนส์ล่วงหน้ายังได้ปัจจัยบวกหลังจากนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟเปิดเผยว่า ยอดการจ่ายเงินสมทบจากประเทศสมาชิกที่สนับสนุนการเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ของไอเอ็มเอฟ เพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปนั้น มีอยู่ทั้งสิ้น 3.20 แสนล้านดอลลาร์
ด้านนายจุน อาซูมิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ไอเอ็มเอฟอาจจะบรรลุเป้าหมายการระดมเงินทุนจากประเทศสมาชิก เป็น 4 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้สาธารณะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก