บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF) มองเป็นหุ้น Growth stock ในกลุ่มอาหารที่ยัง Laggard เชื่อว่าราคาหุ้นปัจจุบัน CPF มีโอกาสสูงที่จะ outperform ตลาดฯ ได้ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันที่ยัง Laggard เทียบกับกลุ่มฯ และตลาดฯ ซึ่งสวนทางแนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2555 ที่จะขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง
ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิ 1Q55 แตะระดับ 9 พันล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรายไตรมาส โดยคาดว่า CPF จะรายงานกำไรสุทธิ 1Q55 เท่ากับ 9 พันล้านบาท เติบโตอย่างมีนัยฯ ถึง 276% qoq และ 160% yoy ด้วยปัจจัยบวกสนับสนุนดังนี้ กำไรพิเศษจากการประเมินมูลค่ากิจการ CPV ใหม่ราว 7.3 พันล้านบาท (Non-cash item) สำหรับหุ้น 29.18% ที่ CPF ถืออยู่ใน CPV ก่อนควบรวมกิจการ ภายใต้สมมติฐานส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ CPV ของ CPP และราคาทุนเดิม CPV ของ CPF และCPF เริ่มรับรู้กำไรของ CPP และ CPV เข้ามาในช่วงกลางเดือน ก.พ.55 โดยคาดการณ์กำไรในงวด 1Q55 จะเท่ากับ 580 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 36% ของกำไรสุทธิก่อนรายการพิเศษ
อย่างไรก็ตาม แม้คาดใน 1Q55 จะได้รับปัจจัยกดดันจากช่วง Low season ของอุตสาหกรรม จึงส่งผลให้ปริมาณขายในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ยังทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่องจากงวดที่ผ่านมา และปัญหาราคาขายผลิตภัณฑ์สัตว์บกที่ตกต่ำในงวด 1Q55 นำโดยราคาขายเฉลี่ยของสุกรหน้าฟาร์มอ่อนตัวลง 13% qoq และราคาไก่เป็นอ่อนตัวลง 11% qoq ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบหลักปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 6% qoq จึงกดดัน Gross margin ในงวด 1Q55 ลดลงสู่ระดับ 12.5% จาก 13% ในงวด 4Q54 แต่ด้วยปัจจัยบวกดังกล่าวข้างต้นที่มีน้ำหนักมากกว่า และสามารถหักล้างผลกระทบไปได้ทั้งหมด จึงทำให้กำไรสุทธิงวดนี้เติบโตอย่างมีนัยฯ และคิดเป็นสัดส่วนถึง 45% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2555 ที่ฝ่ายวิจัยคาด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 เม.ย.55 หุ้น CPF ปิดที่ 38 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท(+2.70%)