นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บมจ.โออิชิ กรุ้ป (OISHI) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในอีก 5 ปีข้างหน้าเพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอาหาร 1.3 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้เป็นรายได้จากร้านอาหาร 8 พันล้านบาท และขนมขบเคี้ยว 3 พันล้านบาท อาหารแช่แข็ง 1 พันล้านบาท รายได้จากการส่งออก 1 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของโออิชิมาจากธุรกิจอาหาร 55% และเครื่องดื่ม 45% นอกจากนี้บริษัทมีแผนส่งอาหารแช่แข็งและขนมอบกรอบไปจำหน่ายในต่างประเทศโดยเริ่มในปี 2556 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจากประเทศญี่ปุ่นเป็นประทศแรก
สำหรับในปี 55 คาดว่ารายได้รวมในธุรกิจอาหารจะอยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 4.1 พันล้านบาท หลังแนวโน้มยอดขายไตรมาส 1/55 เติบโต 17-20% จากการที่บริษัทเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องโดยในไตรมาส 1/55 เปิดไปแล้ว 15 สาขา และในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีการเปิดสาขาร้านอาหารมากกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 30 สาขา เป็น 60 สาขา เนื่องจากช่วงต้นปีที่ผ่านมามีการเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้วถึง 45 สาขา และในปี 2556 บริษัทมีแผนจะเปิดร้านอาหารในแถบประเทศเพื่อนบ้านหลังมีหลายประเทศติดต่อเข้ามาโดยน่าจะเริ่มจากแบรนด์ชาบูชิก่อน ซึ่งคาดว่าจะเห็นการเปิดสาขาในประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากบริษัทแม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ด้วย
ทั้งนี้ในช่วงปลายปี 2555 บริษัทมีแผนเปิดแบรนด์ใหม่ของขนมอบกรอบ และอยู่ระหว่างการพิจารณาผลิตมันฝรั่งทอดกรอบด้วย
"ปีนี้เราแตกไลน์ธุรกิจใหม่เข้าสู่ตลาดสแน็คโดยเริ่มจากสาหร่ายก่อน ปีนี้น่าจะทำรายได้ 200 ล้านบาท และอีก 5 ปี ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1.5 พันล้านบาท หรือมีมาร์เก็ตแชร์ 50% และช่วงปลายปีจะเปิดตัวขนมขึ้นรูป ขนมอบกรอบอีก 1 แบรนด์ หลังจากนั้นก็คงพิจารณาในตลาดอื่นๆอาจจะได้เห็นมันฝรั่งยี่ห้อโออิชิก็ได้" นายไพศาล กล่าว
ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนทุ่มงบประมาณอีก 500-700 ล้านบาท เพื่อเปิดครัวกลางแห่งใหม่เพื่อรองรับธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหาสถานที่คาดว่าจะอยู่แถบจังหวัดชลบุรี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาในการขยายครัวกลางดังกล่าวเพื่อรองรับการผลิตขนมขบเคี้ยวด้วยจากปัจจุบันที่ให้ บมจ.เบอร์รี่ยุคเกอร์ (BJC) เป็นผู้ผลิตให้