ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 เม.ย.) หลังจากสหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่ที่อยู่ในระดับดีเกินคาดของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5709.49 จุด บวก 43.92 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นหลังจากยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.ลดลง 7.1% สู่ระดับ 328,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน แต่นับว่าดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ที่ 320,000 ยูนิต ส่วนตัวเลขยอดขายในเดือนก.พ.ได้รับการปรับทบทวนเพิ่มขึ้นอย่างมากสู่ระดับ 353,000 ยูนิต ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับแต่เดือนพ.ย.2552 จากเดิมที่ 313,000 ยูนิต
ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านเดือนก.พ.ของสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับแต่เดือนเม.ย. 2554 โดยดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ ขยับขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ.เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ตาม หากเทียบเป็นรายปีพบว่า ราคาบ้านใน 20 เมืองในเดือนก.พ.ปรับลง 3.5%
หุ้นโคฟ เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 4.6% หลังจากมีรายงานว่า Cove Energy ตกลงรับข้อเสนอการซื้อกิจการ Royal Dutch Shell ในมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเป็น 1.12 พันล้านปอนด์ หรือ 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นแมนกรุป ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนรายใหญ่ของอังกฤษ ดีดตัวขึ้น 4.8% หลังจากยูบีเอสปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
หุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 6.2%