บมจ.นวนคร(NNCL) ยอมรับว่าผลประกอบการไตรมาส 1/55 จะออกมาขาดทุน เนื่องจากโรงงานในสวนอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี ที่ถูกน้ำท่วมเมื่อปลายปีก่อนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ แต่เชื่อว่าในไตรมาส 2/55 จะเริ่มพลิกมีกำไร หลังจากโรงงานต่าง ๆ ทยอยเปิดทำการได้มากขึ้น และจะมีการโอนที่ดินให้กับลูกค้า ซึ่งเลื่อนมาจากปลายปี 54
บริษัทยังเตรียมจะเซ็นสัญญาขายที่ดินให้กับลูกค้า 4-5 ราย มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท และบริษัทคาดว่าจะได้รับเงินชดเชยจากบริษัทประกันภัยทั้งจากกรณีน้ำท่วมสร้างความเสียหายต่อนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท รวมถึงค่าเสียโอกาสทางธุรกิจในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้บริษัทมั่นใจว่าทั้งปี 55 จะทำกำไรและกลับมาจ่ายเงินปันผลได้
นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ NNCL กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 1/55 โรงงานที่ถูกน้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี เมื่อปลายปีก่อนกลับมาเปิดดำเนินการได้เพียง 30-40 โรง จากทั้งหมด 215 โรง ทำให้ยอดการขายน้ำและรายได้ด้านบริการสาธารณูปโภคทำได้ไม่เต็มที่ จึงเชื่อว่าผลประกอลการในไตรมาสดังกล่าวยังคงขาดทุน
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าไตรมาส 2/55 ผลปรเกอบการน่าจะพลิกกลับมาเป็นกำไร เพราะขณะนี้โรงงานกว่า 70% เปิดดำเนินการแล้ว และเมื่อสิ้นไตรมาสคาดว่าโรงงานจะกลับมาเปิดได้ไม่ต่ำกว่า 85-90% และในช่วงเม.ย.-พ.ค.55 คาดว่าปริมาณการใช้น้ำในนิคมฯ จะเพิ่มขึ้น น่าจะทำให้รายได้ด้านสาธารณูปโภคโดยรวมปรับสูงขึ้นด้วย
นอกจากนั้น ในช่วงไตรมาส 2/55 บริษัทยังจะมีการโอนที่ดินให้กับลูกค้ามูลค่าราวกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเลื่อนมาจากช่วงไตรมาส 4/54 เป็นผู้ประกอบการจากญี่ปุ่น และ ยังเตรียมจะเซ็นสัญญาขายที่ดินให้กับลูกค้ารายใหญ่อีกที่กำลังเจรจากันอยู่ 4-5 ราย มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถโอนได้ทั้งหมดภายในปีนี้
"มั่นใจว่าผลดำเนินงานปี 55 จะจ่ายปันผลได้ หลังจากธุรกิจกลับมาเป็นปกติ และมีลูกค้าจำนวนมากที่เจรจาซื้อที่ดินอยู่"นายนิพิฐ กล่าว
นายนิพิฐ กล่าวว่า นิคมอุตสาหกรรมใน จ.นครราชสีมา มีแนวโน้มการขายที่ดินที่ดี เพราะขณะนี้มีลูกค้าทั้งเก่าและใหม่สนใจเข้าไปซื้อที่ดินเพิ่ม หลังจากทางแคนนอนได้เข้าซื้อที่ดินเพื่อสร้างโรงงานแล้วกว่า 200 ล้านบาท และมีแผนจะเพิ่มพนักงานเป็นกว่า 1 หมื่นคน จาก 5 พันคน ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะมีโรงงานอื่น ๆ ตามมาตั้งในพื้นที่ใกล้เคียงอีกมาก ทั้งโรงงานที่เคยอยู่ในนิคมฯ นวนคร และลูกค้าใหม่ เชื่อว่าพื้นที่ในจ.นครราชสีมาจะสามารถขยายได้รวดเร็ว
ส่วนการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมไม่ให้เกิดซ้ำรอยในปีนี้นั้น นายนิพิฐ กล่าวว่า บริษัทได้ว่าจ้างผู้รับเหมาเข้ามาสร้างเขื่อนถาวรป้องกันน้ำท่วม มูลค่าโครงการกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.55 นี้ ทำให้ลูกค้าในนิคมฯนวนครมั่นใจมากขึ้น โดยทางนิชชินได้เริ่มก่อสร้างโรงงาน
สำหรับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อปลายปี 54 คิดเป็นความเสียหายของสินทรัพย์กว่า 200 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ยื่นหนังสือเรียกค่าชดเชยจากบริษัทประกันภัยไปทั้งหมด และคาดว่าอีก 3 เดือนน่าจะได้รับเงินดังกล่าว ด้านค่าความเสียโอกาสทางธุรกิจนั้น บริษัทประเมินเป็นมูลค่า 105 ล้านบาท แต่คาดว่าจะได้รับการชดเชยกว่า 90 ล้านบาท บริษัทจะยื่นเรียกค่าชดเชยช่วงปลายเม.ย. คาดจะได้รับเงินภายใน 3 เดือน