(เพิ่มเติม) CPF เผยรายได้ตปท.ดัน Q1/55ทุบสถิติ,ทั้งปีโตกว่า 50%หลังซื้อกิจการเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 25, 2012 16:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF)เผยช่วงไตรมาส 1/55 จะทำรายได้รายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าตลาดในประเทศยังทรงตัว แต่รายได้จากต่างประเทศเติบโตขึ้นเข้ามาเสริม ขณะที่เชื่อว่าตั้งแต่ไตรมาส 2/55 เป็นต้นไป รายได้จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากบริษัทเข้าซื้อกิจการในเวียดนามและจีน ซึ่งจะทำให้ทั้งปี 55 รายได้รวมจะเติบโตเกิน 50% หรือทำได้มากกว่า 3 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในช่วงสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 50% สูงขึ้นเป็นเท่าตัวจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 25% ส่วนรายได้ในประเทศจะลดสัดส่วนลงเหลือ 50% จากปีก่อนอยู่ที่ 75%

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ CPF กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตได้กว่า 50% หลังจากบริษัทเข้าซื้อกิจการอาหารสัตว์ในจีนและเวียดนามเข้ามา โดยยอดรายได้น่าจะสูงเกินกว่า 3 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ราว 2.06 แสนล้านบาท

ขณะที่รายได้ในไตรมาส 1/55 น่าจะทำสถิติสูงสุด แม้ว่าตลาดในประเทศยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูหลังน้ำท่วม แต่ก็ได้ตลาดต่างประเทศเข้ามาเสริม ตั้งแต่ไตรมาส 2/55 เป็นต้นไปทั้งรายได้ในประเทศและต่างประเทศจะเข้ามามากขึ้น หลังจากตลาดในประเทศกลับสู่ภาวะปกติ ขณะเดียวกันธุรกิจที่ไปซื้อกิจการใหม่ในต่างประเทศก็จะสร้างรายได้เข้ามาอย่างเต็มที่

สำหรับราคาสินค้าในไตรมาส 1/55 ยังค่อนข้างต่ำทั้ง ไข่ เนื้อหมู และเนื้อไก่ ที่ขึ้นกับอุปสงค์-อุปทาน เพราะกำลังซื้อยังไม่กลับมาเต็มที่ ขณะที่สินค้าอื่น ๆ แม้ต้นทุนจะปรับขึ้น แต่บริษัทยังไม่สามารถปรับราคาขึ้นตามได้ เนื่องจากการแข่งขันในตลาดค่อนข้างสูง ส่วนราคาสินค้าในระยะต่อไปจะมีการปรับขึ้นหรือไม่อย่างไร ต้องขึ้นกับภาวะตลาด รวมถึงต้นทุนการผลิตสินค้าแต่ละชนิด

ขณะที่ราคาสินค้าในตลาดต่างประเทศดีขึ้น โดยเฉพาะจากกรณีสหภาพยุโรปกลับมาให้โควต้าในการนำเข้าเนื้อไก่สดแช่แข็งจากไทย หลังจากที่งดการนำเข้ามาตั้งแต่ปี 47 โดยจะส่งไปได้ตั้งแต่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป เป็นปัจจัยบวกให้กับธุรกิจ เพราะทำให้ราคาเนื้อไก่ปรับขึ้น นอกเหนือจากนั้นตลาดญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ในการนำเข้าไก่ไทยก็น่าจะมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ภาพรวมตลาดต่างประเทศปรับตัวได้ดีขึ้น

นายอดิเรก กล่าวว่า CPF มีเป้าหมายทางธุรกิจที่จะเติบโตปีละ 10-15% ภายใต้คาดการณ์ว่าไม่มีการซื้อกิจการเพิ่ม แต่หากมีการซื้อกิจการใหม่เข้ามาการเติบโตก็จะขึ้นกับขนาดธุรกิจที่บริษัทเข้าซื้อ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ