ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,201.36 จุด เพิ่มขึ้น 1.50 จุด(+0.13%)มูลค่าการซื้อขาย 31,395.47 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่อยู่ระดับ 1,204.73 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,196.45 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 272 หลักทรัพย์ ลดลง 220 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 156 หลักทรัพย์
นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เป็นไปตามตลาดต่างประเทศ ที่มีการเข้ามาเล่นเก็งกำไรจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งก็ได้มีการเปลี่ยนกลุ่มการเล่นจากก่อนหน้านี้จะเล่นหุ้นในกลุ่มแบงก์ ตอนนี้ก็ย้ายมาเล่นกลุ่มสื่อสาร และพาณิชย์ที่มีการปรับตัวขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง
"ตลาดฯเป็นลักษณะของการเลือกเล่นเป็นรายตัวในหุ้นขนาดกลาง หลังจากที่ดัชนี SET สามารถขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,200 จุดได้ในวันนี้ ภาพของตลาดฯก็ดูดีขึ้น ซึ่งตลาดบ้านเราก็ไม่ต่างไปจากตลาดอื่น ตอนนี้เป็นช่วงของการเล่นเก็งงบฯ"นายอดิศักดิ์ กล่าว
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ก็มีการแกว่งตัวในกรอบแคบทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากตลาดฯกำลังรอดูผลประชุม FOMC อยู่ โดยรอดูว่าเฟดจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาหรือไม่ เพราะมาตรการเดิมก็ใกล้จะหมดอายุแล้ว ส่วนทางยุโรปก็ได้แต่เฝ้าดูอย่างใกล้ชิดว่าจะมีอะไรอีกหรือไม่
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(26 เม.ย.)นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะเป็นลักษณะของการเลือกเล่นเป็นรายตัว(Selective)ซึ่งคงจะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาที่หุ้นในกลุ่มอาหาร, หุ้นในกลุ่มอสังหาฯบางตัว และหุ้นในกลุ่มนิคมฯ พร้อมให้แนวรับ 1,200-1,188 จุด แนวต้าน 1,214 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,988.23 ล้านบาท ปิดที่ 74.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,370.17 ล้านบาท ปิดที่ 3.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,366.47 ล้านบาท ปิดที่ 40.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,165.51 ล้านบาท ปิดที่ 184.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,033.82 ล้านบาท ปิดที่ 154.50 บาท ลดลง 0.50 บาท