ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า ตลท. เดินหน้าแผนกลยุทธ์ตอบสนองโอกาสทางการเงินให้แก่พันธมิตรและผู้ร่วมตลาด มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพงานบริการหลังการซื้อขาย (Post Trade Services) ด้านงานรับฝากหลักทรัพย์ผ่านการพัฒนาระบบ Thai Depository Portal ช่องทางการรับ-ส่งข้อมูลรายละเอียดหลักทรัพย์และการแจ้งข่าวการปิดสมุดทะเบียนเพื่อจ่ายดอกเบี้ยและเงินปั นผลสำหรับหลักทรัพย์ประเภทตราสารหนี้และกองทุนรวมที่ฝากอยู่ในระบบ Scripless ระหว่างศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ และผู้ให้บริการนายทะเบียน ด้วยระบบอิเล็คทรอนิกส์เน้นเพิ่มมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการรับส่งข้อมูล ช่วยลดความเสี่ยง และขั้นตอนการดำเนินงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สมาชิก ผู้ถือหุ้น และผู้เกี่ยวข้อง ระบบพร้อมใช้ 1 พฤษภาคมนี้
นายบดินทร์ อูนากูล รองผู้จัดการ สายงานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลท.เปิดเผยว่า เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสถาบันการเงิน 16 แห่งได้ร่วมลงนามใช้บริการระบบ Thai Depository Portal ช่องทางการรับ-ส่งข้อมูลรายละเอียดหลักทรัพย์และการแจ้งข่าวการปิดสมุดทะเบียนเพื่อจ่ายดอกเบี้ยและเงินปันผลผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์ ระหว่างศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯและผู้ให้บริการนายทะเบียนตราสารหนี้และนายทะเบียนกองทุนรวม
ประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ 7 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารธนชาต ธนาคารทหารไทย และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 9 แห่ง ได้แก่ บลจ.กรุงไทย บลจ.กรุงศรี บลจ.เกียรตินาคิน บลจ.ซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล บลจ.ทหารไทย บลจ.วรรณ บลจ.ยูโอบี (ไทย) บลจ. เอ็มเอฟซี และบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย)
ตลท.ได้พัฒนาระบบ Thai Depository Portal หรือระบบรับ-ส่งข้อมูลรายละเอียดหลักทรัพย์ และการแจ้งข่าวการปิดสมุดทะเบียนเพื่อจ่ายดอกเบี้ยและเงินปันผลสำหรับหลักทรัพย์ประเภทตราสารหนี้และกองทุนรวมที่ฝากอยู่ในระบบ Scripless เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับ-ส่งข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินที่เป็นผู้ให้บริการนายทะเบียนและศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ ผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์ แทนการรับ-ส่งเอกสารแบบเดิม (Manual) ซึ่งอาจสูญหายระหว่างทางได้ช่วยลดความเสี่ยง ลดขั้นตอนการรับ-ส่งเอกสาร รวมทั้งลดการดำเนินงานด้านการจัดการข้อมูลและเอกสารนับเป็นบริการหลังการซื้อขายที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ได้พัฒนาระบบ Thai Depository Portal ให้มีมาตรฐานความปลอดภัยในการรับส่งข้อมูลในระดับสูง และนำรูปแบบการทำงานในลักษณะ Straight Through Processing: STP มาใช้เพื่อให้รับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วโดยตรงทันทีที่มีการนำส่งข้อมูลเข้าระบบโดยระบบงานดังกล่าวจะมีรหัสผู้ใช้งานและรหัสผ่านในการเข้าระบบให้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ทันที ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในระบบฐานข้อมูลผู้ถือหุ้นให้กับผู้ออกตราสารหนี้ และผู้ลงทุนในตราสารนั้นๆ
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะจัดอบรมการใช้ระบบ Thai Depository Portal ให้แก่ผู้ใช้บริการปลายเดือนเมษายนนี้และจะเริ่มใช้ระบบกับทุกสถาบันการเงินที่ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนตราสารหนี้และกองทุนรวม ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นไป
ปัจจุบัน ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับฝากหลักทรัพย์ที่มีสถาบันการเงินทั้ง 16 แห่ง เป็นนายทะเบียนในระบบ Scripless ทั้งสิ้น 570 หลักทรัพย์ โดยมีมูลค่า ณ 31 มีนาคม 2555 เท่ากับ 544.58 ล้านบาท และมีการขยายตัวของมูลค่าการรับฝากหลักทรัพย์ดังกล่าวตั้งแต่ปี 2553-2554 เฉลี่ยร้อยละ 13 ต่อปี