ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ในการประชุมครั้งล่าสุด นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท แอปเปิล อิงค์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 89.16 จุด หรือ 0.69% ปิดที่ 13,090.72 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 18.72 จุด หรือ 1.36% ปิดที่ 1,390.69 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 68.03 จุด หรือ 2.30% ปิดที่ 3,029.63 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากเฟดปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในปีนี้ขึ้นเป็น 2.4 - 2.9% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.2 - 2.7% ในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวปานกลางในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า และจะขยายตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะเดียวกันการคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวยังคงมีเสถียรภาพ
นอกจากนี้ เฟดได้ปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.8 - 8.0% จากเดิม 8.2 - 8.5% และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปีนี้ขึ้นเป็น 1.8 - 2.0% จากเดิม 1.5 - 1.8%
ในการประชุมครั้งนี้ เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25% และยืนยันว่ายังคงดำเนินโครงการขยายกำหนดเวลาไถ่ถอนหลักทรัพย์ที่เฟดถือครองอยู่ออกไป ตามที่เฟดที่ได้ประกาศไว้ในเดือนก.ย.เดือนก.ย. 2554
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนมากขึ้นหลังจากแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาสแรกปี 2555 อยู่ที่ 3.92 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 59% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 2.47 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 12.3 ดอลลาร์/หุ้น เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 6.4 ดอลลาร์ต่อหุ้น
แอปเปิลระบุว่า ปัจจัยที่ช่วยหนุนรายได้สุทธิและผลประกอบการในไตรมาสแรกให้เพิ่มขึ้นอย่างมากนั้น มาจากความต้องการที่แข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ไอโฟนและไอแพด โดยยอดขายไอโฟนในไตรมาสแรกอยู่ที่ 32.1 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 88% และยอดขายไอแพดอยุ่ที่ 11.8 ล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 151%
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระดับหนึ่ง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนร่วงลง 4.2% ในเดือนมี.ค. ซึ่งปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2552 และย่ำแย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะลดลง 1.7% ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนกุมภาพันธ์ ถูกปรับลดลงเป็นขยายตัว 1.9% จากเดิมที่รายงานว่าขยายตัว 2.4%
หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 8.9% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสแรก ขณะที่หุ้นโบอิ้ง ดีดขึ้น 5.3% หลังจากมีรายงานว่าโบอิ้งได้ส่งมอบเครื่องบินจำนวน 137 ลำในไตรมาสแรกปีนี้ เมื่อเทียบกับบริษัทแอร์บัสที่มียอดการส่งมอบ 131 ลำ นอกจากนี้ โบอิ้งยังวางแผนที่จะเพิ่มการผลิตเครื่องบินอีกกว่า 60% ในระยะเวลา 4 ปี จนถึงปี 2557
หุ้นโคคา-โคลา พุ่งขึ้น 1.1% ขณะที่หุ้นเอ็กซอน โมบิล คอร์ป ดีดตัวขึ้น 0.6% หลังจากบริษัทประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสเป็น 57 เซนต์ต่อหุ้น จากเดิม 47 เซนต์ต่อหุ้น
ห้นแคทเตอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างและเหมืองแร่ ดิ่งลง 4.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า ยอดขายในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีแนวโน้มที่จะลดลงมากกว่าที่คาดการร์ไว้ในปีนี้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, เฟดสาขาชิคาโกจะเปิดเผยดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนมี.ค. และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค.
ส่วนในวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 1/2555, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 1/2555 และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนเม.ย.