นายวิบูลย์ โลหะชุนสิริ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา บมจ.น้ำมันพืชไทย(TVO)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/55 มีกำไรดีกว่าไตรมาส 4/54 ที่มีกำไรสุทธิ 40 ล้านบาท เนื่องจากช่วงปลายปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทำให้มีปัญหาด้านการขนส่ง ขณะที่ไตรมาส 1/55 ได้รับแรงหนุนจากปริมาณความต้องการถั่วเหลือง รวมถึงราคากากถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้นมาอยู่ระดับ 8-12%
"ในไตรมาส 4/54 เราชะงักจาก logistics แต่ในไตรมาส 1/55 เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทำให้กำไรเราเติบโตกว่า ส่วนจะมากจะน้อยอย่างไรขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำตัวเลข...มองว่าราคากากถั่วเหลืองจะยังดีในไตรมาส 1-2 ส่วนครึ่งปีหลังยังไม่สามารถคาดการณืได้เพราะตลาดยังมีความผันผวน"นายวิบูลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าปริมาณขายในปี 55 ใกล้เคียงปีก่อนที่ระดับ 1.1-1.2 ล้านตันถั่วเหลือง โดยอัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในกรอบ 8-12% โดยปีนี้ตลาดกากถั่วเหลืองมีแนวโน้มเติบโตขึ้นตามความต้องการเลี้ยงสัตว์ หลังจากสหภาพยุโรป(อียู)จะกลับมาเปิดให้นำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทยได้อีก โดยกลุ่มอาหารสัตว์ประเมินยอดการส่งออกไก่สดแช่แข็งจะเพิ่มขึ้น 40,000 ตันในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้ปริมาณความต้องการกากถั่วเหลืองเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ นายวิบูลย์ ยอมรับว่า ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของบริษัทบ้าง แต่อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ โดยส่วนหนึ่งบริษัทคงจะนำเครื่องจักรมาใช้ทดแทนแรงงาน แต่ก็จะไม่มีการปรับลดพนักงานลงแต่อย่างใด ขณะที่ต้นทุนด้านขนส่ง จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น คงต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลในการตรึงราคาน้ำมันดีเซล