บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ระบุว่า ตลาดหุ้นสหรัฐส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มีการปรับการ คาดการณ์การเติบโตของ GDP สหรัฐในปีนี้ขึ้นเป็น 2.4 - 2.9% จากเดิม 2.2 - 2.7% ส่วนอัตราว่างงานปรับลดลงมาที่ 7.8 - 8.0% จากเดิม 8.2 - 8.5% และประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยรวมเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้น
แม้ว่าจะไม่ได้มีการส่งสัญญาณการทำ QE ที่ชัดเจน เป็นเพียงแต่กล่าวว่ามีการเตรียมการที่จะใช้เครื่องมือทางงบดุลเพื่อ ลดอัตราการว่างงาน ซึ่งอันที่จริงก็เป็นการบอกอย่างอ้อมๆถึงการทำ QE แม้ว่าจะไม่ได้เป็นคำพูดที่ตรงมากนัก โดยรวมตลาดหุ้นส่วน ใหญ่มีช่วงปรับตัวขึ้นจากการปรับการเติบโตของ GDP ส่วน NASDAQ เองปรับตัวขึ้นแรงถึง 2.3% เนื่องจากผลประกอบการของแอ ปเปิล ที่ออกมาดี เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
เราประเมินว่าในระยะสั้นตลาดเริ่มรับรู้ข่าวบวกที่มีการเก็งกำไรเรื่องเฟดไประดับหนึ่งแล้ว"หากมีข่าวลบเรื่องยุโรป เข้ามาจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดส่งผลให้ตลาดปรับตัวลงได้ โดยปัญหาเรื่องยุโรปไม่ได้หมดไปแต่ระยะสั้น 1-2 วันที่ผ่านมาถูกการเก็ง กำไรเรื่องผลการประชุมเฟด เชื่อว่าหากมีข่าวลบเรื่องยุโรปเข้ามาตลาดมีโอกาสปรับตัวลงได้โดยผลกระทบจากความไม่มีเสถียรภาพ ทางการเมืองในยุโรปเริ่มมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส หรือกรีซ ที่อาจจะส่งผลลบต่อตลาดในอนาคต ซึ่ง ในเรื่องนี้ต้องจับตาการเลือกตั้งของทั้งฝรั้งเศสและกรีซที่จะมีขึ้นในวันเดียวกัน ในวันที่ 6 พ.ค.
นอกจากนึ้ความเสี่ยงอีกประเด็นหนึ่งของยุโรป คือ เรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในยุโรปที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นหลังหมด มาตรการ LTRO ซึ่งต้องติดตามผลการประชุม ECB ในวันที่ 5 พ.ค.ว่าจะมีนโยบายใหม่ๆออกมาหรือไม่
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ระบุว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,660-1,667 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการ ปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง
สำหรับการทำกำไรให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อเพื่อไปขายทำกำไรที่ แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,673 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาปรับตัวลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ประเมิน แนวรับไว้ที่ 1,633 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,627 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีอ้างอิงวันนี้ SET 50 อยู่ที่ 848.32 จุด บวก 5.99 จุด (+0.71%)
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 28,234 110,384 Total Futures 27,923 107,652 Brent Crude Oil 635 375 Metal 12,134 37,130 - 50 Baht Gold 3,997 12,659 - 10 Baht Gold 8,107 24,204 - Silver 30 267 Interest Rate - 5 - 3M BIBOR - - - 6M THBFIX - 5 - 5Y Gov Bond - - SET50 Index 12,566 28,763 - S50M12 11,488 26,351 - S50U12 1,017 1,941 - S50Z12 53 423 - S50H13 8 48 Single Stock 2,588 41,379 - ADVANC Futures 10 45 - BANPU Futures 6 1,074 - BAY Futures 1 3 - BBL Futures 2 33 - BTS Futures - 16,475 - CPALL Futures 61 151 - CPF Futures 12 1,298 - DTAC Futures 2 53 - HMPRO Futures - 11 - IRPC Futures 245 1,771 - ITD Futures 385 888 - IVL Futures 57 1,546 - KBANK Futures 11 163 - KTB Futures 1,471 8,664 - LH Futures 95 327 - MINT Futures - 2 - PS Futures 3 21 - PTT Futures 1 195 - PTTEP Futures 12 414 - QH Futures 20 586 - SCB Futures 6 48 - SCC Futures 5 22 - STA Futures - 16 - TCAP Futures 45 554 - THAI Futures 4 49 - TMB Futures 52 5,567 - TOP Futures 6 14 - TRUE Futures 57 39 - TTA Futures 19 233 - TUF Futures - 1,417 Total Options 311 2,732 SET50 Index 311 2,732 Call 73 1,125 Put 238 1,511