ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวสามารถชดเชยการร่วงลงของดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซน และตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดขึ้น 0.1% ปิดที่ 257 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3229.32 จุด ลบ 4.14 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6739.90 จุด บวก 35.40 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5748.72 จุด บวก 29.83 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลง หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปรายงานในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของผู้บริหารและผู้บริโภคในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 92.8 จุด ในเดือนเม.ย. จากระดับ 94.5 จุด ในเดือนมี.ค. ในขณะที่เศรษฐกิจของภูมิภาคส่งสัญญาณว่ากำลังกลับเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวร่วงลงมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 94.2 จุด
ดัชนีความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้ผลิตของยุโรปร่วงลงสู่ระดับ -9.0 จุด ในเดือนเม.ย. จากระดับ -7.1 จุด ในเดือนมี.ค. ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นภาคบริการทรุดลงแตะ -2.4 จุด จาก -0.3 จุด ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงลงสู่ระดับ -19.9 จุด จาก -19.1 จุด
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 เม.ย. ลดลง 1,000 ราย มาอยู่ที่ 388,000 ราย ซึ่งลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์จะลดลงมาอยู่ที่ 375,000 ราย ส่งสัญญาณว่าการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐในช่วงก่อนหน้านี้เริ่มอ่อนแรง
ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรปร่วงลง 1.1% โดยหุ้นดอยช์แบงก์ ร่วงลง 2.8% หลังจากธนาคารเปิดเผยว่ากำไรสุทธิร่วงลงมาอยู่ที่ 1.38 พันล้านยูโร (1.82 พันล้านดอลลาร์) จาก 2.06 พันล้านยูโรในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากวิกฤตหนี้ยุโรปส่งผลกระทบต่อรายได้ ขณะที่หุ้นบังโค ซานตานเดร์ ร่วงลง 3.4% หุ้นยูนิเครดิต เอสพีเอ ดิ่งลง 2.4% หุ้นโซซิเอเต เจนเนอราล (ซอคเจน) ร่วงลง 3.5%
หุ้นอัลคาเทล-ลูเซนท์ ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ด้านการสื่อสารรายใหญ่ของฝรั่งเศส ร่วงลง 17% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนจากการดำเนินงานสูงถึง 221 ล้านยูโร ขณะที่หุ้นแอสตราเซเนก้า ผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ ร่วงลง 6.1% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2555
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากดัชนีหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่พุ่งขึ้น 2.7% โดยหุ้นโฟล์คสวาเก้น พุ่งขึ้น 8.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกทะยานขึ้น 10% แตะที่ 3.10 พันล้านยูโร หลังจากยอดขายรถยนต์ Audi ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่หุ้นพอร์ช ดีดขึ้น 7.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด