ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน รวมถึงรอยัล ดัทช์ เชลล์ และยูนิลิเวอร์ และดัชนีการทำสัญญาขายบ้านเดือนมี.ค.ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาด อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวันหลังจากดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนปรับตัวลดลง
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5718.89 จุด บวก 9.40 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 4.1% แตะ 101.4 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2553 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0%
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของผู้บริหารและผู้บริโภคในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 92.8 จุด ในเดือนเม.ย. จากระดับ 94.5 จุด ในเดือนมี.ค.
หุ้นยูนิลิเวอร์ พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 8.4% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 6.4%
ขณะที่หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลลื ดีดขึ้น 3.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า กำไรตามมาตรฐาน CCS ซึ่งไม่นับรวมราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงและค่าใช้จ่ายครั้งเดียว อยู่ที่ 7.30 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 16% จากระดับ 6.29 พันล้านดอลลาร์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ราว 6.5 พันล้านดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
หุ้นแอสตราเซเนก้า ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของอังกฤษ ร่วงลง 6.1% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2555