โบรกฯส่องเป้าดัชนี SET ปีนี้ 1,240-1,350/กลุ่มอาหาร-ICT เล่นได้ทั้งปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 27, 2012 11:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

5 โบรกเกอร์ส่องเป้าดัชนีหุ้นไทยปีนี้(2555)ไว้ในกรอบ 1,240-1,350 จุด ต่างเห็นพ้องกันว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้อีก เพียงแต่ระหว่างทางมีตัวถ่วงที่มาจากปัจจัยภายนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของทางเศรษฐกิจโลกที่ยังเฝ้าจับตาดูอย่างใกล้ชิด

แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ นักวิเคราะห์ฯต่างเล็งเห็นกันว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก จากเศรษฐกิจไทยที่น่าจะเห็นภาพการกระเตื้องขึ้นจากภาคการบริโภค ที่เป็นผลจากแรงกระตุ้นตามนโยบายของภาครัฐฯ

พร้อมแนะนำให้เล่นหุ้น Domestic โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มอาหาร และกลุ่ม ICT ที่เห็นพ้องกันว่าน่าจะลงทุนได้ตลอดทั้งปี 55 ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงาน, ปิโตรเคมี, ธนาคารพาณิชย์ ยังต้องเกาะติดเศรษฐกิจโลกต่อไป

*FSS ให้เป้าดัชนี SET ปีนี้ไว้ที่ 1,350 จุด

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์สำหรับลูกค้าสถาบัน บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS)กล่าวว่า ตลาดฯยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว และการที่ตลาดฯเคลื่อนตัวเชื่องช้าในช่วงนี้เป็นผลจากปัจจัยวิกฤติหนี้สินยุโรปเป็นตัวถ่วง แต่เม็ดเงินลงทุนยังไม่ได้หายไปไหน คงเวียนกันเล่นในตลาดพันธบัตร(Bond), หุ้น, ทอง

สำหรับตลาดหุ้นไทยปีนี้มองเป้าหมายดัชนี SET ไว้ที่ 1,350 จุด คิดค่า P/E ตลาดน่าจะประมาณ 13-14 เท่า ส่วนกำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 24% พร้อมคาดการณ์ตัวเลข GDP ของไทยในปีนี้เติบโต 4.5-5% โดยมองว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะมีการฟื้นตัวได้ดี โดยเฉพาะจากการบริโภค เพราะเงินเดือนและค่าจ้างแรงงานได้ปรับตัวขึ้น ภาคครัวเรือนก็คงจะเดินหน้า และภาคเอกชนก็คงจะมีการปรับตัวขึ้นด้วย

ดังนั้น ปีนี้จึงมองว่าหุ้นในกลุ่มที่ไดรับประโยชน์จากการขับเคลื่อนจากเศรษฐกิจภายในประเทศ(domestic play)จะไปได้ดี อย่างกลุ่มอาหาร, กลุ่มค้าปลีก แม้แต่กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างก็จะดีด้วยจากการลงทุนซ่อม-สร้าง หลังจากที่มีความเสียหายจากน้ำท่วม

*SCBS มองเป้าดัชนี SET ปีนี้ที่ 1,300 จุด

นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนลูกค้าบุคคล สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์(SCBS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังสามารถปรับตัวขึ้นไปได้อีก โดยได้มองเป้าหมายดัชนี SET ทั้งปีไว้ที่ 1,300 จุด คิดค่า P/E 13.5 เท่า น่าจะได้เห็นได้ในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/55)ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจโลกน่าจะดูดีขึ้น และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนก็น่าจะดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรก(H1/55)ส่วนเศรษฐกิจไทยปีนี้ก็คาดว่าตัวเลข GDP ไทยน่าจะเติบโตได้ 5.6-5.8%

สำหรับการเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 25% และมีโอกาสที่จะเติบโตไปถึง 30% เนื่องจากการประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 1/55 ที่ออกมาก็สามารถทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้น ทำให้หลายบริษัทฯได้มีการปรับประมาณการเพิ่มขึ้น

พร้อมแนะนำเล่นหุ้นในกลุ่มอาหาร, ICT ซึ่งมองว่าสามารถจะเข้าลงทุนได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้ามองระยะสั้นจริง ๆ ก็ให้มองไปที่แนวโน้มของผลประกอบการของบริษัทที่คาดว่าจะดี และราคาหุ้นยังไม่ได้มีการสะท้อนมากนัก ส่วนนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวก็ให้มองไปที่หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์, พลังงาน และปิโตรเคมี ซึ่งก็เป็นหุ้นขนาดใหญ่ แต่สิ่งที่ต้องรอดูเป็นภาพเศรษฐกิจโลกที่ขณะนี้ยังไม่เคลียร์

*CNS ให้เป้าดัชนี SET ปีนี้ไว้ที่ 1,300 จุด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิจัย บล.โนมูระ พัฒนสิน (CNS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยขึ้นทะลุแนว 1,200 จุด ขึ้นไปได้ จากปัจจัยบวกที่เป็นตัวเร่งเข้ามา ซึ่งทาง CNS ได้มองเป้าหมายดัชนี SET ปี 55 ไว้ที่ 1,300 จุด คิดเป็น P/E ประมาณ 13 เท่า ส่วนการเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ก็คาดว่าจะเติบโตประมาณ 23% และได้คาดการณ์ตัวเลข GDP ปีนี้ไว้ที่ 5.5%

ทั้งนี้ มองว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้(H2/55)เศรษฐกิจไทยน่าจะมีการเติบโตที่ดีกว่าครึ่งปีแรก(H1/55) โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายของภาครัฐฯ และภาคการลงทุนน่าจะดีขึ้น รวมถึงการบริโภค ที่น่าจะเติบโตได้ดีในปีนี้ เนื่องจากค่าแรงงานที่ปรับตัวขึ้น ซึ่งหุ้นที่น่าลงทุนในปีนี้ยังคงแนะนำหุ้นในกลุ่มที่ขับเคลื่อนจากเศรษฐกิจภายในประเทศ(domestic play)เป็นหลัก โดยในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/55)หุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มพลังงาน จะน่าลงทุน

*BLS คงเป้าดัชนี SET ปีนี้ไว้ที่ 1,240 จุด

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง(BLS) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงมองเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้ไว้ที่ 1,240 จุด คิดค่า P/E เท่ากับ 13 เท่า แม้ว่าดัชนีหุ้นไทยขณะนี้ได้วิ่งขึ้นทะลุระดับ 1,200 จุด แล้วแต่ก็ยังไม่คิดจะปรับเป้าหมายดัชนี SET ขึ้นไปอีก เนื่องจากต้องการจะรอดูตลาดฯในช่วงครึ่งปีแรกก่อนว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง อีกทั้งเท่าที่ดูขณะนี้โมเมนตัมของยุโรปและสหรัฐฯจะเริ่มปรับตัวลงแล้ว เพียงแต่เอเชียยังมีโมเมนตัมที่ดีอยู่

ส่วนการคาดการณ์การเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 23% yoy และคาดการณ์การเติบโตของ GDP ของไทยปีนี้ไว้ที่ 5.5% ส่วนปีหน้า(2556)คาด GDP เติบโต 4.5% ซึ่งทิศทางเศรษฐกิจไทยคงจะต่ำสุดในไตรมาส 1/55 หลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นไปถึงไตรมาส 4/55 เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการบริโภคภายในประเทศเป็นหลักตามนโยบายภาครัฐฯ

พร้อมมองว่านักลงทุนควรจะเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัว เนื่องจากตลาดฯเริ่มมี upside ไม่มาก จึงควรจะเลือกเล่นหุ้นที่มี valuation ยังไม่แพง และกำไรจะ Turnaround โดยที่มองก็เป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนจากเศรษฐกิจในประเทศ อย่างหุ้นในกลุ่มแบงก์, ICT, อาหาร, อสังหาริมทรัพย์ และยานยนต์ เพราะปัจจัยจากต่างประเทศยังไม่เคลียร์

*AYS เล็งปรับเพิ่มเป้าดัชนี SET ปีนี้-รอดูกำไร Q1/55 ก่อน

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา(AYS) กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงเป้าดัชนี SET ไว้ที่ 1,160 จุดอยู่ แต่มีโอกาสที่จะปรับเป้าหมายดัชนี SET ขึ้นไปอีก เพียงแต่กำลังรอให้ผลประกอบการงวดไตรมาส 11/55 ของบริษัทจดทะเบียนประกาศออกมาให้หมดก่อน ซึ่งขณะนี้ก็มีการมองกรอบของดัชนี SET ในการเทรดดิ้งไว้ที่ 1,150-1,290 จุด ด้วยการมองปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้นจากผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาสูงขึ้น

"สัญญาณที่เห็นในระยะ 1-2 เดือนที่ผ่านมานี้ นักวิเคราะห์จากหลายโบรกเกอร์ได้มีการปรับประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนกันเพิ่มขึ้น ทำให้ outlook ดูดีขึ้น ซึ่งกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ของเราก็ได้มีการคาดการณ์การเติบโตไว้ที่ 20% และปีหน้าก็คาดว่ากำไรจะเติบโต 17-18% สำหรับการเติบโตของ GDP ของไทยปีนี้ก็คงอิงตามแบงก์ชาติที่คาดว่าจะเติบโต 5.5%"นายอดิศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ปีนี้หุ้นที่น่าลงทุนคงจะเป็นหุ้นในกลุ่มแบงก์, ยานยนต์ และอาหาร ซึ่งทิศทางตลาดฯคงเป็นลักษณะไซต์เวย์ อัพ เพราะถ้าหมดเดือนนี้(เม.ย.)ความกังวลเรื่องหนี้ในยุโรปจะลดน้อยลง แล้วจะไปกังวลอีกทีก็เดือนกรกฎาคม และถ้าผ่านเดือนกรกฎาคมไปได้ก็จะไม่มีอะไร จะไปดูอีกทีก็เดือนตุลาคม อย่างไรก็ตามมองว่าตลาดฯยังมี room ให้เล่นได้อยู่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ