ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,211.78 จุด เพิ่มขึ้น 2.51 จุด(+0.21%)มูลค่าการซื้อขาย 24,691.43 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่อยู่ระดับ 1,214.78จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,204.34 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 258 หลักทรัพย์ ลดลง 227 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 176 หลักทรัพย์
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบแคบทั้งแดนบวก-ลบ ช่วงเช้าตลาดฯได้รับแรงหนุนจากตัวเลขยอดขายบ้านรอปิดการขายงวดมี.ค.ของสหรัฐฯออกมาดีกว่าคาด ทำให้ตลาดทั่วโลกปรับตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา
แต่ภายหลังจากที่ S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปน 2 ขั้น จาก A สู่ BBB+(แนวโน้มเชิงลบ)ทำให้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงมาอยู่ในแดนลบ แม้แต่ตลาดบ้านเราก็มีแรงขายออกมาเมื่อดัชนีฯขึ้นทดสอบที่จุดสูงสุดเดิมที่ 1,214 จุดแล้วไม่สามารถผ่านไปได้
"เท่าที่ดู Flow ตอนนี้ได้ไหลออกจากตลาดหุ้นในภูมิภาค ซึ่งอาจจะเป็นแรงขายทำกำไรก็ได้หลังจากที่เห็นว่าราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว และตรงนี้ก็เลยเป็นภาพที่เข้ามากดดันตลาดฯ"นายอภิชาติ กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายอภิชาติ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,195-1,200 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,214-1,220 จุด พร้อมแนะติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของแบงก์ชาติในวันจันทร์หน้า(30 เม.ย.) และรอดูตัวเลขจากสหรัฐฯในเรื่องการจับจ่ายใช้สอย และรายได้ของผู้บริโภคในเดือนมี.ค.ด้วย นอกจากนี้ให้ติดตามตัวชี้วัดภาวะธุรกิจเขตชิคาโก้ของสหรัฐฯในเดือนเม.ย. และรอดูการประมูลตั๋วเงินคลังของอิตาลี
ทั้งนี้ ในวันที่ 1 พ.ค.ซึ่งเป็นวันแรงงานหลายตลาดฯก็จะหยุดทำการ ดังนั้นเชื่อว่าบางส่วนคงจะมีการชะลอการลงทุน
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,156.57 ล้านบาท ปิดที่ 3.10 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,017.75 ล้านบาท ปิดที่ 344.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 923.96 ล้านบาท ปิดที่ 81.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 898.37 ล้านบาท ปิดที่ 346.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 776.38 ล้านบาท ปิดที่ 40.25 บาท ลดลง 0.25 บาท