บมจ.การบินไทย(THAI)เปิดตัวหน่วยธุกิจใหม่สายการบิน"ไทยสมายล์"อย่างเป็นทางการได้ฤกษ์เริ่มบินเที่ยวบินแรก กรุงเทพ-มาเก๊า วันที่ 7 เดือน 7 โดยคาดว่าในปีนี้จะทำรายได้ราว 1,800 ล้านบาท มีอัตราบรรทุกผู้โดยสาร(cabin factor)ราว 72.2% ใช้เครื่องบิน 4 ลำ มีเที่ยวบินเฉลี่ย 90 เที่ยว/สัปดาห์ รับ-ส่งผู้โดยสารประมาณ 3 แสนคน
ส่วนแผนงานในปีหน้า จะเพิ่มจำนวนเครื่องบินเป็น 6 ลำ ซึ่งจะสามารถเพิ่มจุดบินและเที่ยวบินเป็น 150 เที่ยว/สัปดาห์
นายวรเนติ หล้าพระบาง กรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจการบินไทยสมายล์ THAI เปิดเผยภายหลังงานเปิดตัวบริการใหม่ “THAI SMILE ในงาน รักคุณเท่าฟ้า" ว่า การบินไทยสมายล์จะเปิดให้บริการครั้งแรกในวันที่ 7 ก.ค.นี้ ในเส้นทางกรุงเทพฯ-มาเก๊า วันละ 2 เที่ยว นอกจากนั้นยังให้บริการเส้นทางบินในประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ-กระบี่ กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และเชียงใหม่-ภูเก็ต ซึ่งจะทำการบินแทนเที่ยวบินของสายการบินไทยในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ประเมินว่าในปีนี้จะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 3 แสนคน และมีเที่ยวบินให้บริการประมาณ 90 เที่ยว/สัปดาห์ โดยมีเครื่องบินให้บริการ 4 ลำ อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ประมาณ 72.2% รายได้อยู่ที่ประมาณ 1,800 ล้านบาท และยังไม่มีกำไร
ส่วนในปี 56 จะมีเที่ยวบินให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 150 เที่ยวต่อสัปดาห์ โดยมีเครื่องบินให้บริการรวม 6 ลำ คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 4,900 ล้านบาท และจะเริ่มมีกำไร
“มั่นใจว่าเมื่อการบินไทยสมายล์เริ่มให้บริการจะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดในภาพรวมบริษัทการบินไทยเพิ่มขึ้น และในส่วนของการบินไทยสมายล์ที่ให้บริการในเส้นทางกรุงเทพฯ-มาเก๊านั้น คาดว่าภายใน 1 ปีจะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 22-25% โดยปัจจุบันมีสายการบินให้บริการเส้นทางนี้อยู่ 2 สายการบิน โดยเส้นทางนี้ถือว่ามีการแข่งขันสูง" นายวรเนติ กล่าว
สาเหตุที่การบินไทยสมายล์มีกำไรเร็ว เพราะเป็นหน่วยธุรกิจของการบินไทย ต้นทุนในการดำเนินงานไม่สูงมาก ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าเช่าเครื่องบิน ส่วนจุดแข็งของบริการ คือ เป็นสายการบินที่เน้นการให้บริการที่สดใส เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ และราคาคุ้มค่ากับบริการ คือ มีบริการอาหารว่างและเครื่องดื่มฟรี และฟรีน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระได้ 20 กก.