HEMRAJ ปรับเพิ่มเป้ายอดขายที่ดินปี 55 เป็น 2 พันไร่, คาดยอดขาย-พท.เช่าสร้างสถิติใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 30, 2012 18:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเดวิด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการ บมจ. เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) ปรับเพิ่มเป้าขายที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมปี 2555 เป็น 2,000 ไร่ (800 เอเคอร์ หรือ 320 เฮกตาร์) จากเดิมที่ตั้งไว้ 1,700 ไร่ (680 เอเคอร์ หรือ 272 เฮกตาร์)

นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2555 จะสร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่องอีกปีหนึ่ง โดยรายได้จากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น 40 - 50% การให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้า จะเพิ่มขึ้นสูงถึง 60% และ การให้บริการด้านสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น 20%

จากผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ปี 2555 บริษัทฯ สามารถทำยอดขายที่ดินได้จำนวน 928 ไร่ (371 เอเคอร์ หรือ 148 เฮกตาร์) เพิ่มขึ้น 197% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีจำนวนสัญญารวม 39 สัญญา เป็นลูกค้าใหม่ 32 ราย และเป็นการขยายโครงการของลูกค้าที่มีอยู่เดิม 7 ราย โดยในจำนวนนี้กว่า 60% มาจากนักลงทุนญี่ปุ่นและกว่า 33% มาจากกลุ่มยานยนต์

ด้วยเหตุนนี้ บริษัทฯ จึงได้ปรับเป้าการขายที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมสำหรับปี 2555 เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ไร่ (800 เอเคอร์ หรือ 320 เฮกตาร์) จากเดิมที่เคยตั้งไว้ที่ 1,500 ไร่ (600 เอเคอร์ หรือ 240 เฮกตาร์) และปรับเป็น 1,700 ไร่ (680 เอเคอร์ หรือ 272 เฮคตาร์) ตามลำดับ

ส่วนพื้นที่การให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปในไตรมาสที่ 1 ปี 2555 เพิ่มขึ้น 13,694 ตารางเมตร หรือ 9% จากยอดสะสมเมื่อสิ้นปี 2554 นอกจากนี้ยังมียอดรวมพื้นที่จากการเช่าล่วงหน้าในปี 2555 อีก 14,000 ตารางเมตร ขณะนี้ อาคารคลังสินค้า 2 อาคารแรกของเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 1 ซึ่งตั้งอยู่บนทางหลวง 331 สายใหม่ ได้เสร็จสมบูรณ์พร้อมให้บริการได้แล้ว และคาดว่าการก่อสร้างอีก 7 อาคาร จะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการได้ในกลางปี 2555

ขณะเดียวกันในเดือนพฤษภาคมนี้ บริษัทฯ จะเริ่มพัฒนาเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 2 ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด โดยคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จพร้อมให้เช่าได้ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ดังนั้นจึงประมาณการว่าพื้นที่ให้เช่าของโรงงานสำเร็จรูป และ โลจิสติกส์พาร์ค ในปี 2555 จะมียอดรวม 100,000 ตารางเมตร เพิ่มขึ้น 60% จากยอดสะสมเมื่อสิ้นปี 2554

“บริษัทฯ คาดว่าการดำเนินงานปี 2555 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทฯ จะยังคงดำเนินนโยบายการลงทุนต่อไปในธุรกิจหลัก คือ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค พลังงาน และอสังหาริมทรัพย์ โดยบริษัทฯเล็งเห็นถึงอุปสงค์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วสำหรับโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า คลังสินค้าโลจิสติกส์แห่งใหม่ และการเพิ่มกำลังการผลิตของระบบสาธารณูปโภค ประเทศไทยจะยังคงดึงดูดนักลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์และอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยความได้เปรียบในด้านต่างๆ เช่น ต้นทุน อัตราแลกเปลี่ยน และการเข้าถึงตลาดในภูมิภาค ส่งผลให้อุปสงค์ด้านนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นตามมา" นายเดวิด นาร์โดน กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ