บลจ.ฟินันซ่า ออกกองทุนตราสารหนี้โรล โอเวอร์ 6 เดือน ผลตอบแทน 3.42%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 2, 2012 10:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ฟินันซ่า เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส โรล โอเวอร์ 6เดือน2 (FAM FIPR6M2) เปิดเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) ตั้งแต่ 26 เมษายน—8 พฤษภาคม 2555 นี้ ด้วยประมาณการผลตอบแทนที่ 3.42% ต่อปี โดยสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท นักลงทุนสามารถใช้ช่องทางการลงทุนใหม่ล่าสุดของบริษัทโดยซื้อกองทุนผ่านระบบอินเตอร์เนต skype

ทั้งนี้ FAM FIPR6M2 เป็น specific fund หรือกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน มีนโยบายที่จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและเงินต้น โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือ เงินฝาก ของภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้(Investment Grade)

ในครั้งนี้เราจะลงทุนในเงินฝากธนาคารต่างประเทศ สกุลเงิน USD หรือ CNY กับธนาคาร BOC, Macao หรือธนาคาร CIMB Niaga, Indonesia (Baa3) หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, เงินฝาก AED ธนาคาร Union National Bank, UAE(P-1), ตราสารหนี้ ธนาคารเกียรตินาคิน หรือ (EMTN) Banco Bradessco,Brazil (BBB), ตราสารหนี้ ,ตั๋วแลกเงิน/หรือหุ้นกู้บริษัทเอกชนที่อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ และตั๋วเงินคลังหรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย

นอกจากนี้จะเปิดให้มีการซื้อและขายคืนหน่วยลงทุน ทุก ๆ 6 เดือนโดยประมาณ นับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม กองทุนนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นในตราสารหนี้ภาครัฐและภาคเอกชนและ/หรือ เงินฝาก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคาร ในระยะเวลานานประมาณ 6 เดือนสำหรับการลงทุนแต่ละรอบ กองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศซึ่งเราจะทำการการป้องความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

นายธีรพันธ์ กล่าวอีกว่า จากนโยบายรัฐบาลในการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและความกดดันจากราคาน้ำมันและราคาอาหาร จะทำให้ต้นทุนในการผลิตภาคเอกชนเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวอย่างต่อเนื่อง คาดธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปลายปี 2555 ดังนั้นยังคงแนะนำนักลงทุนให้ลงทุนในระยะสั้นเพื่อรอรับการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ