ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: วิตกเศรษฐกิจสหรัฐ,ยูโรโซน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 3, 2012 06:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจในสหรัฐและยูโรโซน หลังจากมีรายงานว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด และผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนหดตัวลงในเดือนเม.ย. รวมทั้งอัตราว่างงานในยูโรโซนที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.4% ปิดที่ 257.39 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6710.77 จุด ลบ 50.42 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3226.33 จุด บวก 13.53 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5758.11 จุด ลบ 54.12 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอทั้งในยุโรปและสหรัฐ รวมถึงอัตราว่างงานในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 10.9% ในเดือนมี.ค. จาก 10.8% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปีนับแต่เริ่มใช้เงินยูโรในปี 2542 โดยสเปนมีอัตราว่างงานสูงสุดที่ 24.1% ขณะที่สหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 27 ประเทศ รวมถึงประเทศที่ไม่ได้ใช้สกุลเงินยูโร มีอัตราว่างงานที่ 10.2% ในเดือนมี.ค.

ขณะที่มาร์กิต อิโคโนมิค รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 45.9 จุดในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2552 และเป็นการเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุด ซึ่งเป็นระดับที่บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต

เศรษฐกิจยูโรโซนกำลังเผชิญปัญหาการปรับตัวขาลง ขณะที่รัฐบาลประเทศต่างๆพยายามเดินหน้ามาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวดเพื่อจัดการภาระหนี้สินของประเทศ แต่ในทางกลับกันก็ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงานที่ย่ำแย่อยู่แล้ว

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจาก ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 119,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 — 177,000 ตำแหน่งโดยประมาณ

หุ้นธนาคารบังโค ซานตานเดร์ ของสเปน และหุ้นธนาคารยูนิเครดิต ของอิตาลี ร่วงลง 3.3% และ 5.7% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นยูบีเอสดีดตัวขึ้น 3.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

หุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์รายใหญ่สุดของยุโรป พุ่งขึ้น 1.3% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์

หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ดิ่งลง 3.9% ขณะที่หุ้นโฮม รีเทล ร่วงลง 13%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ