นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) เปิดเผยว่าบริษัทปรับเป้ารายได้ในปี 55 เป็นใกล้ 1 หมื่นล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ 6-7 พันล้านบาท หลังมีปริมาณความต้องการซื้อที่ดินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปีนี้ บริษัทปรับขึ้นราคาขายที่ดินเฉลี่ย 10% โดยสิ้นไตรมาส 1/55 ปรับขึ้นราคาที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จาก 2.5 ล้านบาท/ไร่ เป็น 2.8 ล้านบาท/ไร่ สำหรับลูกค้ารายใหม่ ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครปรับขึ้นเป็น 5 ล้านบาท/ไร่ จากเดิมกว่า 4 ล้านบาท/ไร่
ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินในปีนี้ ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ประมาณ 3-4 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ทั้งหมดภายในปี 56 ขณะที่มียอดขายที่ดินรอโอน(Backlog) จากสิ้นปี 54 ที่มีจำนวน 3 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ฯในปีนี้ทั้งหมด
อนึ่ง สัดส่วนรายได้ในปีนี้ 75% จะมาจากยอดขายที่ดิน อีก 25% เป็นรายได้อื่นๆ และมาจากบริษัทย่อย 16 แห่ง
แนวโน้มยอดขายที่ดินในไตรมาส 2/55 คาดว่าจะใกล้เคียงหรือบวกลบ 10% จากไตรมาส 1/55 ที่มียอดขายกว่า 900 ล้านบาท และล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา บริษัทได้เซ็นสัญญาขายที่ดินให้กับบริษัท ซูมิโตโม จากประเทศญี่ปุ่น จำนวน 80-90 ไร่ ราคาขายกว่า 2 ล้านบาท/ไร่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาขายที่ดินอีกประมาณ 1 พันไร่
"ยอดขายที่ดินปีนี้ดีขึ้น ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการที่นายกฯได้เดินทางไปโรดโชว์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ทั้งที่ญี่ป่น เกาหลี และจีน โดยขณะนี้ได้มีนักลงทุนจีนหลายรายเข้ามาลงทุนในประเทศไทย รายใหญ่ๆที่คุยอยู่ตอนนี้มีอยู่ 4-5 ราย คิดเป็นที่ดินประมาณ 1.3-1.4 พันไร่ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส่วนนักลงทุนญี่ปุ่น ก็เป็นคู่รักกันอยู่แล้ว อมตะอยู่ในใจเขาอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเป็นนักลงทุน จากญีปุ่นที่เป็นบริษัทใหม่ เพิ่มเข้ามา 30-40%"นายวิบูลย์ กล่าว
นายวิบูลย์ กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีแผนซื้อที่ดินใหม่ เนื่องจากปัจจุบันยังมีที่ดินรอขายและรอพัฒนาจำนวน 1.5 หมื่นไร่ ซึ่งสามารถรองรับการขายได้อีก 3 ปี แบ่งเป็นที่ดินนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครมีที่ดินพัฒนาแล้วรอขายจำนวน 2-2.5 พันไร่ และที่ดินรอพัฒนา 7- 8 พันไร่ ส่วนที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้มีที่ดินพัฒนาแล้ว 4 พันไร่ และที่ดินรอพัฒนาอีก 1.5 พันไร่