นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล. กสิกรไทย เปิดเผยในงานสัมมนาเรื่อง"Approaching Turning Points"ว่า ตลาดหุ้นไทยปีนี้มีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับ 1,300-1,350 จุด แต่ต้องระวังแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติในช่วงไตรมาส 3/55 ที่อาจทำให้ดัชนีปรับลงมาเคลื่อนไหวระดับ 1,280-1,300 จุด
เนื่องจากมาตรการ Operation Twist จะสิ้นสุดลง ประกอบกับแรงกดดันจากปัญหาหนี้สินยุโรป โดยเฉพาะปัญหาสเปน รวมถึงการเมืองในฝรั่งเศสที่อยู่ระหว่างการเลือกตั้งใหม่ยังมีความไม่แน่นอน นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลก ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนมีการขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมา
ด้านนายกิจพล ไพรไพศาลกิจ นักกลยุทธ์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 2/55 มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 1,250 จุด เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวส่งผลให้ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ออกมาค่อนข้างดี
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยจะเริ่มมีความผันผวนมากขึ้นในช่วงไตรมาส 3/55 และอ่อนตัวลงทดสอบระดับ 1,100 จุด หลังสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมถึงความกังวลในปัญหาเงินเฟ้อของประเทศต่างๆ อาจกดดันให้ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย หรือชะลอการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในส่วนของไทยมองปัญหาเงินเฟ้อส่งผลต่อตลาดหุ้นไม่มาก เนื่องจากคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวสูงกว่าเงินเฟ้อ
ดังนั้น ช่วงที่ตลาดหุ้นอ่อนตัวลงถือเป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นสำหรับนักลงทุนระยะยาว เพราะคาดว่าไตรมาส 4/55 ตลาดจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง มีโอกาสขึ้นทดสอบระดับเป้าหมายที่ 1,350 จุด หรือ ซื้อขายที่ PE 13 เท่า
กลยุทธการลงทุนในปีนี้ แนะจัดพอร์ตลงทุนในหุ้น 60% ทั้ง domestice play ซึ่งหุ้นที่แนะนำ ได้แก่ SIRI, AP, ADVANC, KK , AMATA, HEMRAJ และ valuation laggard ได้แก่ PTTGC, TOP, PTT, KTB, BANPU, TCAP, MCOT, RATCH, EGCO ส่วนอีก 30% ลงทุนในหุ้นกลุ่ม turn around ได้แก่ TICON, PS, DELTA, SPCG และ 10% ลงทุนในหุ้นกลุ่มม้ามืด เช่น LOXLEY, PRIN, BLAND, SALEE, CFRESH