นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) กล่าวว่า กองทุนเปิด HI-DIV ถือเป็นกองทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้น จากผลการดำเนินงานที่ชนะเกณฑ์มาตรฐานของกองทุนมาโดยตลอดทุกช่วงเวลา และการจ่ายเงินปันผลรวมกว่า 808,452,900 บาท หรือ 12.40 บาทต่อหน่วยลงทุนในช่วงปี 2552-2555 ซึ่งเป็นผลมาจากการคัดเลือกหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลดี และเหมาะสมกับภาวะตลาดของผู้จัดการกองทุน และจังหวะเหมาะสมของการเริ่มลงทุนในขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ที่ระดับประมาณ 430 จุดในปี 2552 ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณ 1,200 จุด โดยฝ่ายตราสารทุนของเอ็มเอฟซีคาดว่าแนวโน้มตลาดหลักทรัพย์ยังมีแนวโน้มที่เป็นขาขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการขยายตัวของกำไรที่โดดเด่นของบริษัทจดทะเบียน
กองทุนเปิด HI-DIV มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 27 เมษายน 2555 ดังนี้ ผลงานกองทุนเปิด HI-DIV ย้อนหลัง 3 เดือนเท่ากับร้อยละ 18.24 ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานกองทุนอยู่ที่ร้อยละ 12.59 ผลงานกองทุนเปิด HI-DIV ย้อนหลัง 6 เดือนเท่ากับร้อยละ 31.56 ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานกองทุนอยู่ที่ร้อยละ 24.52 ผลงานกองทุนเปิด HI-DIV ย้อนหลัง 1 ปีเท่ากับร้อยละ 19.91 ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานกองทุนอยู่ที่ร้อยละ 10.81ผลงานกองทุนเปิด HI-DIV ย้อนหลัง 3 ปีเท่ากับร้อยละ 184.55 ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานกองทุนอยู่ที่ร้อยละ 146.45 และผลงานกองทุนเปิด HI-DIV ย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเท่ากับร้อยละ 227.04 ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานกองทุนอยู่ที่ร้อยละ 163.97
สำหรับการจ่ายเงินปันผลของกองทุนเปิด HI-DIV ได้มีการจ่ายเงินปันผลไปแล้วรวม 12.40 บาทต่อหน่วยลงทุน คือในปี 2552 จ่ายเงินปันผลไปแล้ว 3.88 บาท ปี 2553 จ่ายเงินปันผลไปแล้ว 4.25 บาท ปี 2554 จ่ายเงินปันผลไปแล้ว 2.57 บาท และในปี 2555 นี้จ่ายเงินปันผลไปแล้ว 2 ครั้งรวม 1.70 บาท
กรรมการผู้จัดการเอ็มเอฟซีกล่าวว่า ช่วงระหว่างวันที่ 2 พ.ค. -29 มิ.ย. 55 เอ็มเอฟซีได้จัดแคมเปญสำหรับการลงทุนในกองทุนเปิด HI-DIV โดยทุกๆ ยอดการลงทุนใหม่ 8,000,000 บาท เมื่อลงทุนครบ 180 วัน จะได้รับ The New iPad Wifi 16GB 1 เครื่อง และเมื่อลงทุนต่อเนื่องครบอีก 120 วัน จะได้รับเพิ่ม iPhone 4S 16GB หรือ Samsung Galaxy Note หรือ Sony 40" LED TV โดยสามารถเลือกได้อย่างใดอย่างหนึ่ง
ทั้งนี้ กองทุนเปิด HI-DIV เป็นกองทุนรวมตราสารทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอมาตลอดอย่างน้อย 3 ปีย้อนหลัง หรือมีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กองทุนยังเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน และลดความเสี่ยงจากการลงทุนในกรณีที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง โดยสามารถลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าใน SET50 Index Futures และกองทุนมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละครั้งในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิในแต่ละงวดบัญชี