เครือสหพัฒนพิบูล ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้เติบโตได้ราว 15% จากปีก่อน ขณะที่ในแง่รายได้ก็คาดว่าจะเติบโตในระดับใกล้เคียงกัน โดยขณะนี้บริษัทยังยืนยันที่จะตรึงราคาสินค้าไว้ก่อนแม้ว่าต้นทุนจะขยับสูงขึ้น ซึ่งอาจจะนำมาพิจารณาทบทวนอีกครั้งหลังจากไตรมาส 2/55 ผ่านไปแล้ว
"ปลายไตรมาส 2 คงจะมาดูต้นทุนอีกที ถ้าแพงมากก็คงต้องขอประชาชนเพื่อปรับราคาขึ้นเล็กน้อย แต่ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่ขึ้น"นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บมจ.สหพัฒนพิบูล(SPC) ในเครือสหพัฒน์ กล่าว
ช่วงที่ผ่านมา ต้นทุนขนส่งและโลจิสติกส์มีการปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 5% แต่อย่างไรก็ดี ในส่วนของสหพัฒน์ในปัจจุบันยังไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยจะยังร่วมมือกับรัฐบาลในการตรึคงราคาสินค้าไว้ก่อน จนถึงปลายไตรมาส 2 ของปีนี้ และหลังจากนั้น เมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 3 ทางสหพัฒน์จะมีการพิจารณาทบทวนต้นทุนวัตถุดิบของสินค้าแต่ละรายการว่าจะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นหรือไม่ และถ้าต้องปรับเพิ่มขึ้น จะปรับเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด
นายบุญชัย มองว่า นโยบายการแทรกแซงด้านราคาพลังงานของภาครัฐ ยังควรจะต้องมีอยู่ โดยเห็นว่ารัฐบาลควรนำงบประมาณมาใช้ในการดำเนินมาตรการบางอย่างเพื่อช่วยลดต้นทุนราคาพลังงานโดยเฉพาะราคาน้ำมัน ตลอดจนใช้มาตรการทางภาษีในการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ในจุดนี้จะสามารถช่วยลดต้นทุนสินค้าโดยเฉพาะค่าขนส่งให้ปรับลดลงได้ โดยมองว่าเป็นการแก้ปัญหาจากพื้นฐานที่แท้จริง ดีกว่าการที่รัฐบาลจะตามแก้ปัญหาที่ปลายเหตุในการดูแลสินค้าเป็นรายตัว ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายทาง